รีเซต

'ไมค์ เพนซ์' ปัดใช้บทบัญญัติแก้ไขรธน.ครั้งที่ 25 ปลดทรัมป์

'ไมค์ เพนซ์' ปัดใช้บทบัญญัติแก้ไขรธน.ครั้งที่ 25 ปลดทรัมป์
มติชน
13 มกราคม 2564 ( 10:17 )
50

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า เขาจะไม่ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐ ครั้งที่ 25 เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง

 

ทั้งนี้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐ ครั้งที่ 25 ถูกตราขึ้นหลังจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคเนดี ถูกลอบสังหาร ซึ่งสาระสำคัญคือการสืบทอดอำนาจในกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐเสียชีวิต ลาออก หรือกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถ

 

ภายใต้บทบัญญัติดังกล่าวได้ให้อำนาจรองประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีเกินกึ่งหนึ่งพิจารณาว่า ประธานาธิบดีสหรัฐถือเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือไม่ โดยสามารถเขียนจดหมายถึงประธานฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะมีผลให้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยรองประธานาธิบดีจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน

 

อย่างไรก็ดีเพนซ์ได้แจ้งกับผู้นำรัฐสภาในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาไม่สนับสนุนให้มีการใช้บทบัญญัติดังกล่าวเพื่อการถอดถอนทรัมป์ โดยในหนังสือที่เขียนถึงนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพนซ์ระบุว่า ท่านประธานาธิบดีเหลือเวลาในการดำรงตำแหน่งอีกเพียงแค่ 8 วัน แต่ท่านและพรรคเดโมแครตกลับเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีและตนนำบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 25 มาใช้

 

“ผมไม่เชื่อว่าการดำเนินการเช่นนั้นจะสอดคล้องกับผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐ และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ”เพนซ์ระบุ

 

พรรคเดโมแครตเร่งผลักดันกระบวนการถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 10 วันก็จะถึงวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้วก็ตาม ทั้งนี้จดหมายปฏิเสธของเพนซ์ถูกส่งมาถึงนางเพโลซีเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดจะลงคะแนนสนับสนุนข้อมติ เรียกร้องให้เพนซ์ใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 เพื่อถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

 

ด้านเพโลซีระบุว่า เพนซ์ล้มเหลวที่ไม่เริ่มต้นการนำบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 มาใช้ถอดถอนทรัมป์ ซึ่งขณะนี้มีสภาพไม่ต่างจากคนเพ้อคลั่งวิกลจริต

ขณะที่เพนซ์ตอบโต้เพโลซีว่า ข้อเรียกร้องให้ถอดถอนทรัมป์ด้วยการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 เป็นเรื่องที่ผิดที่ผิดทาง เพราะข้อบัญญัติดังกล่าวถูกตราขึ้นเพื่อนำมาใช้ในกรณีที่ประธานาธิบดีกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือพิการ ไม่ใช่วิธีที่จะนำมาใช้ลงโทษหรือแย่งชิงอำนาจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง