BTGจ่อคิวเข้าเทรดSET ลุยต่อยอดธุรกิจใน-นอก
#BTG #ทันหุ้น - BTG เดินหน้าเข้าระดมทุนเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 500 ล้านหุ้น หวังนำเงินเสริมแกร่งธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ คาดเข้าเทรดกระดาน SET ได้ช่วง Q4/2565 พร้อมวางหมากปี 2565 สร้างรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ที่ราว 8.67 หมื่นล้านบาท รับอานิสงส์จากดีมานด์-ราคาขายหนุน แถมชูจุดแข็งอาหารปลอดภัย โชว์ศักยภาพมั่นคงระยะยาว
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จํากัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัทแล้วในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา หวังระดมทุนเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจในอนาคต
จ่อเทรด SET ช่วง Q4
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท และมีทุนชำระแล้ว 7,500 ล้านบาท โดย BTG จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ไม่เกิน 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยคาดน่าจะได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งเข้าทำการซื้อขายใน SET ภายในปีนี้หรือในไตรมาส 4/2565
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ทาง BTG จะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการเข้าซื้อและ/หรือ ก่อสร้างฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงโรงงาน ฟาร์ม รวมถึงสถานที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทานของบริษัท รวมถึงการลงทุนในโรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม โรงชำแหละสัตว์ โรงงานแปรรูปอาหารและเนื้อสัตว์ รวมถึงการผลิตไข่ไก่และโปรตีนทางเลือกในประเทศไทย, การลงทุนในโรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม และโรงชำแหละสัตว์ในประเทศกัมพูชา ประเทศสปป.ลาว และประเทศเมียนมา
พร้อมกันนี้จะนำไปลงทุนการลงทุนในโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง ประกอบกับเสริมศักยภาพการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Facilities) ตลอดจนการลงทุนเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงการจัดการและดำเนินธุรกิจและการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ในการจัดการและดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการลงทุนในกิจการร่วมค้า ตลอดจนชำระหนี้สินระยะสั้น และ/หรือ ระยะยาวให้กับสถานการเงินต่างๆ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป
อย่างไรก็ดี ในปี 2565บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ราว 8.67 หมื่นล้านบาท หลังธุรกิจในส่วนต่างๆ มีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ขยายตัว ประกอบกับราคาขายสินค้าเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งบริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชูอาหารปลอดภัยโตยั่งยืน
"สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ คุณภาพของอาหารที่เราผลิตได้จะต้องมีความปลอดภัยระดับสูง ดังเช่นช่วงที่ผ่านมาสินค้าของบริษัทแบรนด์ "S-Pure" ที่รับการรับรองเรื่องไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ จึงได้มาตรฐาน "NSF" จากทางสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของธุรกิจ และหลังจากนี้เราจะมุ่งให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว"
ส่วนนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ BTG นั้นจะมีอัตราการจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี
อนึ่ง งบการเงินครึ่งแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5.41 หมื่นล้านบาท และมีกำไร 3,892.45ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5.81 หมื่นล้านบาท หนี้สินรวม 3.93 หมื่นล้านบาท