รีเซต

“ปกรณ์วุฒิ” สรุปภาพรวมพิจารณางบประมาณ65 พร้อมค้าน ตีเช็คเปล่าให้ “บิ๊กตู่”

“ปกรณ์วุฒิ” สรุปภาพรวมพิจารณางบประมาณ65 พร้อมค้าน ตีเช็คเปล่าให้ “บิ๊กตู่”
มติชน
25 กรกฎาคม 2564 ( 16:22 )
87

“ปกรณ์วุฒิ” สรุปภาพรวมพิจารณางบประมาณ65 พร้อมค้าน ตีเช็คเปล่าให้ “บิ๊กตู่” หลังพิสูจน์แล้วว่าตัดสินใจอะไรก็ล้มเหลว กรณี การแปรญัตติเข้างบกลาง

 

 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 แถลงสรุปภาพรวมในการทำงานและปัญหาความไม่ชอบบ้างอย่างของกมธ.ฯ ว่า การจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานราชการต่างๆนั้นมีความล้มเหลวและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ ที่ของบ ซื้อรถให้ทูตคันละ 3-4 ล้านบาทเป็นจำนวน 14 คัน ของบซื้อผ้าม่าน ซื้อเครื่องอุ่นจานหรือแม้กระทั่งการปรับปรุงสนามเทนนิสให้กับสถานทูตต่างๆ หรือ กระทรวงวัฒนธรรมที่ของบส่งเสริมกิจกรรมท้องถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ของบมาจัดงานแฟชั่น วีค ในกรุงเทพฯ ซึ่งนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆที่พบเจอในชั้นกมธ.

 

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบปัญหาความเป็นไปได้ในการใช้อำนาจทางการเมืองเข้าแทรกแซงการทำงานของข้าราชการในกระทรวงต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ให้กับฐานเสียงหรือพรรคพวกของตัวเอง ตัวอย่าง ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถามต่อกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องวัคซีนว่าด้วยเหตุใดบางจังหวัดที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนในส่วนที่สูงทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดงไม่ใช่จังหวัดเป้าหมายหลักในด้านการท่องเที่ยว ทำให้กังขาว่านี่เป็นระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาที่มีบางพรรคการเมืองใช้อิทธิพลที่มีอยู่ในกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้จังหวัดของตัวเองได้รับวัคซีนที่มากกว่าและเพื่อคะแนนนิยมของตัวเองหรือไม่ แต่ปรากฏว่าผู้บริหารหน่วยงานไม่ได้ให้ความชัดเจนถึงหลักเกณฑ์ในการจัดสรรวัคซีนและหลีกเลี่ยงจะไม่ตอบคำถามดังกล่าว น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. ที่ถามต่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สภากทม. รวม 30 คนที่ได้รับการแต่งตั้งในยุคของ คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) นั้นตอนนี้อยู่ที่ใดได้มาช่วยเหลือประชาชนบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวินตอบว่า 30 คนที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นเหลืออยู่เพียง 27 คน เนื่องจากเสียชีวิตแล้ว 3 คน และไม่ทราบเหมือนกันว่าสภากทม.เหล่านี้ทำอะไรบ้าง แต่จะไปสอบถามและแจ้งให้ว่าประชาชนถามหา เหตุการณ์ข้างต้นทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทุกวันนี้หน่วยงานราชการและผู้ที่ได้รับตำแหน่งการแต่งตั้งในยุคคสช.กำลังทำงานและบริหารราชการเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนจริงหรือไม่

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การพิจารณางบของบางหน่วยงานบางกระทรวงมีการใช้อำนาจปิดปากปิดกั้นไม่ให้สอบถามไม่ให้ตรวจสอบโดยเฉพาะประเด็นเรื่องของกองทัพ อย่างในกระทรวงกลาโหม มีการปิดกั้นไม่ให้พูดในบางประเด็นและมีกมธ.หลายคน แม้กระทั่งประธานในที่ประชุมที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นองครักษ์พิทักษ์เหล่าทัพต่างๆ และในตอนท้ายของการพิจารณาประธานในที่ประชุมได้มีการรวบรัดการประชุมกระทรวงกลาโหมและสั่งปิดประชุมในทันที ตนยังมีคำถามที่ยังไม่ได้ถาม นอกจากความไม่ชอบมาพากลในห้องใหญ่ก็ยังพบจากการพิจารณาในชั้นของอนุกมธ.ฯ หรือห้องเล็ก

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จากปัญหาทั้งหมดทั้งในกมธ.ห้องใหญ่และห้องเล็ก ตนคิดว่าคอรัปชั่นคือโรคร้าย วัคซีนที่ดีที่สุดคือความเปิดเผยและความโปร่งใส จึงขอเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลและมีความโปร่งใสในขั้นตอนการพิจารณาให้เพิ่มมากกว่านี้เพื่อประโยชน์ของประชาชน ข้อเสนอแรกคือให้มีการจัดทำเอกสารทั้งหมดเป็นรูปแบบไฟล์excelหรือ spec sheet ให้สามารถนำไปวิเคราะห์ได้ในหลายมิติ ซึ่งไม่ใช่แค่ส.ส.กมธ.เท่านั้น ข้อมูลเหล่านี้ถ้าเปิดเผยเป็นสาธารณะประชาชนทั่วไปในมิติต่างๆได้อย่างสะดวก

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ล่าสุดทีมดิจิตอล พรรคก้าวไกลร่วมกับนักพัฒนาโปรแกรมที่อาสาเข้ามาทำโปรเจค ในการแปลงไฟล์งบประมาณจาก pdf เป็นไฟล์ excel จนสำเร็จเรียบร้อยโปรเจคนี้จะถูกใช้ในโอกาสต่อไป อย่างไรก็ตามโปรเจคนี้แปลงเล่มขาวคาดแดงได้ ซึ่งปัจจุบันเป็นสาธารณะอยู่แล้ว จึงเรียกร้องต่อว่าเอกสารทั้งหมดที่หน่วยงานทุกหน่วยงานมอบให้กมธ.และอนุกมธ.มาใช้พิจารณาต้องส่งล่วงหน้าและอัพโหลดเป็นไฟล์ดิจิตอลให้ดาวน์โหลดได้เป็นสาธารณะ เพราะการให้กมธ.หรืออนุกมธ.เปิดเอกสารมากมายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ พิจารณางบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ข้อเสอนต่อมาการประชุมกมธ.และอนุกมธ.ทั้งหมดต้องมีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ช่องทางใดก็ได้และมีการบันทึกเก็บไว้เพื่อให้ประชาชน สื่อมวลชนจับตาพฤติกรรมต่างๆของหน่วยงานราชการและกมธ. ตนเชื่อว่าหากมีการถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่มีกมธ.เข้ามาขอตัดงบประมาณหรือปกป้องโดยไม่มีเหตุผลสมควร จะไม่เกิดขึ้นเพราะเขารู้ว่ามีคนจับตามองอยู่ ตนคิดว่าการเปิดเผยข้อมูลจะทำให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่คณะกมธ.พิจารณาครบทุกหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว จากการทำงานของกมธ.และอนุกมธ.ทั้ง 9 คณะ ทางเราได้ทำการรีดไขมันของหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือยทั้ง 9 คณะ ตัดได้รวมทั้งสิ้น ประมาณ 24,000 ล้านบาท ยอดตรงนี้ยังไม่รวมนงบของอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ส่วนของหน่วยงานกองทัพเรือและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต่อไปมีจะการขออุทธรณ์งบจากหน่อยงานต่างๆที่ขออุทธรณ์งบสัดส่วนที่ตัดไปแล้ว ซึ่งพรรคก้าวไกลจะไม่ให้มีการคืนงบให้กับโครงการที่ไม่จำเป็น และยังมีบางโครงการที่ควรถูกตัดงบแต่ยังไม่ได้ตัดในชั้นอนุกมธ. ซึ่งทางกมธ.ก็จะขอลงมติเพื่อให้ตัดงบบางรายการออก ตัวอย่าง โครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแต่ประเทศเมียนมา จากนั้นขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการแปรญัตติคืนให้กับหน่วยงานที่ทำเรื่องขอมา พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ ลำดับแรกในการจัดสรรคืนให้กับงบที่เป็นสวัสดิการแก่ประชาชนและเป็นงบที่เข้าโครงการโดยที่ไม่สามารถนำไปประพฤติมิชอบได้ เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนเพื่อการศึกษา กองทุนประกันสังคม เป็นต้น ส่วนโครงการที่เห็นว่าไม่ควรแปรญัตติคืนให้คือโครงการอาจจะมีการนำไปใช้หาผลประโยชน์ได้โดยมิชอบหรืออาจมีการใช้อำนาจแทรกแซงในพื้นที่ของตัวเอง

 

 

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนข่าวว่าจะมีการขอแปรญัตติเข้างบกลางและมีการกล่าวอ้างว่าจะนำงบส่วนนี้ไปเป็นงบประมาณสำหรับวัคซีนให้เด็กนักเรียน จึงขอเรียนว่างบกลางเป็นงบนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการอนุมัติดังนั้นการแปรญัตติหั่นงบกลางจะกลายเป็นว่างานที่กมธ.ทำมาอย่างหนักเพื่อรีดไขมันจากหน่วยงานราชการ ทั้งหมดจะถูกนำตีเช็คเปล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่างบประมาณส่วนนี้จะถูกนำไปใช้จัดซื้อวัคซีนให้เด็กจริงๆ แต่ถ้าดูร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 65 ที่เข้ามาในวาระที่ 1 ในงบกลางมีเงินที่อยู่ในหมวดสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นอยู่แล้วทั้งสิ้น 89,000 ล้านบาท ยังไม่นับงบจากพ.ร.ก.เงินกู้ที่ผ่านสภาไปแล้ว ซึ่งงบประมาณทั้งหมดที่กล่าวมานี้หากมีการใช้ อย่างฉลาดเพียงพอที่จะซื้อวัคซีนให้ประชาชนทุกคน

 

 

“พรรคก้าวไกลจึงขอคัดค้านการนำงบประมาณที่ตัดได้ไปตีเช็คเปล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพิสูจน์ตัวเองมาหลายครั้งแล้วว่าตัดสินใจได้ล้มเหลวและไม่สามารถแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้เลย แล้วจากกระแสข่าวที่ว่าจะมีการยุบสภาและพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่สามารถอยู่ได้จนครบเทอมอาจทำให้มีความพยายามอย่างหนักที่จะดึงเข้างบกลางเพื่อนำไปใช้สร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคการเมืองก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง