รีเซต

ขนหัวลุก! กู้ภัยเก็บศพในรถ จู่ๆเพลงดังขึ้นเอง ปิดแล้วก็ดังอีก ทั้งที่ไม่เสียบกุญแจ

ขนหัวลุก! กู้ภัยเก็บศพในรถ จู่ๆเพลงดังขึ้นเอง ปิดแล้วก็ดังอีก ทั้งที่ไม่เสียบกุญแจ
ข่าวสด
2 ธันวาคม 2563 ( 16:00 )
263
ขนหัวลุก! กู้ภัยเก็บศพในรถ จู่ๆเพลงดังขึ้นเอง ปิดแล้วก็ดังอีก ทั้งที่ไม่เสียบกุญแจ

หลอนเลย! กู้ภัยระยองมาเก็บศพในรถที่ตายมาแล้ว 5 วัน แต่ต้องเจอเรื่องขนลุก เพราะจู่ๆเพลงดังขึ้นเอง ปิดแล้วก็ดังอีก ทั้งที่ไม่เสียบกุญแจรถ

 

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่าพบกับเหตุการณ์สยองขวัญ ขณะเข้าไปเก็บศพผู้เสียชีวิตภายในรถกระบะ ที่จอดอยู่ที่หน้าหอพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ระยอง แต่กลับพบเครื่องเสียงภายในรถเปิดอยู่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เสียบกุญแจรถ แต่มีเสียงเพลงดังขึ้นเอง จนทำให้ขนหัวลุกกันทั้งหมด

 

 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงยังที่เกิดเหตุ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรัตน์ ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด ระยอง ได้รับแจ้งว่า พบศพผู้เสียชีวิตภายในรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บน9559 สุรินทร์ ที่จอดอยู่หน้าหอพัก จึงประสานแพทย์เวร และหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลจุดมาบตาพุด เดินทางไปตรวจสอบ

 

 

ภายในรถพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายอิสระ อายุ 49 ปี ชาว จ.สุรินทร์ สภาพศพไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย สภาพเริ่มเน่าเปื่อย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน คาดเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว ก่อนจะนำศพส่ง รพ.ระยอง ตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

 

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลจุดมาบตาพุด เปิดเผยว่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ชวนขนหัวลุก โดยเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กำลังเข้าไปเปิดประตูรถ เพื่อระบายกลิ่น ก่อนที่แพทย์จะเข้าตรวจสอบ ปรากฎว่ามีเสียงเพลงดังสนั่นขึ้นจากเครื่องเสียงภายในรถ เป็นเพลง "กอดฉัน" ของ อ้วน วารุณี ตอนแรกคิดว่าเปิดไว้ แต่พอมองไปที่เครื่องเสียงปรากฏว่าปิดอยู่

 

มิหนำซ้ำกุญแจรถก็ไม่ได้เสียบไว้ แต่วางอยู่บนตัวผู้เสียชีวิต ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ ทุกคนต่างถอยห่าง พร้อมทั้งใช้ไม้ยื่นเข้าไปปิดเพลง แต่เงียบเพียงพักเดียว เสียงเพลงก็ดังขึ้นอีก ทำให้ทุกคนเชื่อว่าต้องมีพลังงานบางอย่าง หรือความเฮี้ยนของผู้เสียชีวิตเป็นแน่

 

ต่อมาหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแพทย์เวรเดินทางมาถึง ก็นำศพลงจากรถมาตรวจพิสูจน์นอกรถ ตรวจค้นในตัวพบว่ากุญแจรถวางอยู่บนตัวผู้เสียชีวิต จึงเชื่อว่าเกิดจากความเฮี้ยนแน่นอน

 

ด้านน้องสาวผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาติดต่อขอรับศพ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตมาทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในจ.ระยอง หลังทราบข่าวก็เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจ.สุรินทร์ โดยเตรียมเข้าไปนำรถออกจากพื้นที่ เพราะทางเจ้าของหอพักต้องการให้นำออกไปโดยเร็ว เพราะผู้ที่พักในหอต่างหวาดกลัว พร้อมทั้งจุดธูปบอกวิญญาณพี่ชายให้กลับบ้านไปด้วย

ส่วนเรื่องสาเหตุก็คงต้องรอผลการพิสูจน์อย่างชัดเจน และรอการสรุปคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง