ฝนหนัก 2 วัน ไหลลงคลองสะตอ ทำนบดินกักน้ำใกล้พัง

หลังจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตราดและในจังหวัดจันทบุรีเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำจาก อ.ขลุง จ.จันทบุรี และในคลองโสน อ.บ่อไร่ จ.ตราดได้ไหลมาลงที่คลองสะตอ ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ที่บ้านชุมแสง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อบต.สะตอได้กั้นทำนบดินไว้ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง
ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 8 -10 กุมภาพันธ์ 2565 ระดับน้ำที่คลองสะตอในช่วงบ้านชุมแสง ที่มีการทำฝายดินเพื่อเก็บกักน้ำมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเกือบถึงสันทำนบ และเหลือความสูงประมาณ 1 เมตร ก็จะถึงสันทำนบ ซึ่งหากฝนยังตกลงมาอีก จะส่งผลต่อฝายดินที่อบต.สะตอทำขึ้น และอาจจะพังลงมาได้ ซึ่งจะเกิดผลกระทบต่อชาวสวนผลไม้ที่ต้องใช้น้ำเพื่อการเกษตร
ล่าสุดในเวลา 03.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 นายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง นายกอบต.สะตอ ได้รับแจ้งจากนายตรวจ สนเท็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านทุ่งกระบอก ว่าระดับน้ำในฝายดินชุมแสงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น และเหลือเพียง 2 คืบก็จะล้นฝาย นายปรา จึงได้สั่งการให้นำรถแมคโครมาขุดผันน้ำเหนือฝายดินชุมแสงออกโดยขุดร่องระบายน้ำออกไปอีกทิศหนึ่งเพื่อลดแรงกดดันจากปริมาณน้ำเหนือฝายดิน เพราะหากไม่รีบดำเนินการทำนบฝายดินจะได้รับความเสียหายหรือพังทั้งหมด
เวลา 11.30 น.วันเดียวกัน นายตรวจ สนเถ็ง ได้เดินทางไปยังฝายดินชุมแสงพบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นเกือบจะล้นทำนบฝายดินแล้ว จึงได้แจ้งให้นายกอบต.สะตอได้เข้ามาติดตาม เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะหากฝนตกลงมาอีกในช่วงเย็นจะทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เพราะบริเวณนี้จะเป็นจุดรวมน้ำทั้งหมด
นายตรวจ กล่าวว่า ฝายดินชุมแสง มีความสำคัญกับตำบลสะตอมาก เพราะจะเป็นฝายที่เก็บน้ำได้มาก และใช้เป็นฝายที่จะทำการทดน้ำขึ้นไปเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมทางทิศเหนือ ซึ่งสามารถทดน้ำไปไกลถึง 18 กม.และสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งของเกษตรกรชาวตำบลสะตอได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากฝนตกลงมาอีก และไม่สามารถแก้ไขได้ ฝายดินชุมแสงน่าจะพังและน้ำจะถูกปล่อยลงไปตอนล่างซึ่งไม่มีประโยชน์เท่าไร แต่กลับจะมีผลเสียต่อเกษตรกรตอนเหนือด้วยซ้ำเพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงที่เพียงพอ หรือหากฝายดินชุมแสงพังลงมา อาจจะต้องหาเงินมาก่อสร้างแทนซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้น้อย
ทางด้านนายธำรงศักดิ์ นครวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหานี้ ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนซึ่งจะต้องนำเสาหรือไม้ไผ่เข้าไปปักเป็นแนวป้องกันการพังทลายของฝายดินชุมแสงโดยด่วนเป็นอันดับแรก เพราะหากพังทลายขึ้นมาจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย จึงควรเร่งดำเนินการให้เเล้วเสร็จโดยเร็ว
ด้านนายปราโมทย์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้นำท้องที่ถึงระดับน้ำของฝายดินชุมแสง และเกรงว่า อาจจะเกิดการพังทลายขึ้นมาก็ได้ และถ้าพังขึ้นมาจะเกิดผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนผลไม้ เพราะที่ผ่านมา ได้สูบน้ำเข้ามาเก็บกักในฝายดินแห่งนี้มาตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2565 แต่เมื่อเกิดฝนตกหนักขึ้นมา ระดับน้ำที่ไหลมาจากต้นคลองสะตอ และจากอ.ขลุง จ.จันทบุรี ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเกือบถึงระดับสันทำนบดิน และอาจจะพังได้หากฝนยังคงตกอยู่อีก ซึ่งอาจจะสร้างผลกระทบมากมาย ทั้งการขาดแคลนน้ำและงบประมาณ 4-5 แสนที่ต้องสูญเสียไป และยังต้องหางบประมาณมาเก็บกักน้ำต่อ เพราะหากไม่ดำเนินการก็จะเกิดการขาดแคลนน้ำตามมา