ผชช. ชี้สหรัฐฯ ต้องบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังความสมัครใจถึงทางตัน
นิวยอร์ก, 4 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (3 ส.ค.) หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่าการรณรงค์ฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ ด้วยความสมัครใจเดินมาถึงทางตันแล้ว และทางออกเดียวที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) คือการบังคับฉีดวัคซีน
บทความของโจเซฟ จี. อัลเลน รองศาสตราจารย์และผู้อำนวยการโครงการเฮลธี บิลดิงส์ (Healthy Buildings) ที่วิทยาลัยสาธารณสุข ที เฮช ชานของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่ามีบทเรียนมากมายจากความล้มเหลวของกลยุทธ์การฉีดวัคซีนในปัจจุบัน ได้แก่ การอนุมัติล่าช้าของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเสียงอันแผ่วเบาของ "ผู้มีอิทธิพล" อย่างนักกีฬามืออาชีพ
"หนทางเดียวข้างหน้าคือการใช้ข้อบังคับ" อัลเลนระบุ พร้อมเสริมว่าโรงพยาบาลและคลินิกดูแลสุขภาพต้องบังคับฉีดวัคซีนตามที่องค์กรดูแลสุขภาพชั้นนำเกือบ 60 แห่งเรียกร้องเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กล่าวว่าปัจจุบันมีบุคลากรด้านการรักษาพยาบาลระยะยาวและสถานพยาบาลรับวัคซีนเพียงร้อยละ 45
กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) ว่าจะกำหนดให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้าของกระทรวงฯ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งแรกที่บังคับฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อชั้นนำของสหรัฐฯ บอกเล่าว่าตนท้อใจมากต่อสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ในปัจจุบัน โดยสหรัฐฯ อยู่ใน "สถานการณ์ลำบากโดยไม่จำเป็น" ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และประเทศกำลัง "เดินผิดทาง"