อินโดนีเซียทำ "เรือดำน้ำ" ติดอาวุธไร้คนขับอัตโนมัติ เคลมชาติที่ 4 ของโลก จ่อสร้าง 30 ลำ 2026 นี้

อินโดนีเซียประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำอัตโนมัติ (Autonomous Underwater Vehicle: AUV) แบบ KSOT (Kapal Selam Otomatis Tanpa Awak) ซึ่งพัฒนาและผลิตในประเทศโดย PT PAL Indonesia บริษัทอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัฐ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา

ข้อมูลเรือดำน้ำไร้คนขับอัตโนมัติของอินโดนีเซีย

KSOT เป็นยานใต้น้ำไร้คนขับที่กระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย (Kemhan) พัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอระบบป้องกันภัยแบบไร้คนขับ (unmanned defense system) ที่มีประสิทธิภาพการโจมตีสูง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ด้านเว็บข่าวต่างประเทศ อินเทอร์เรสติง เอ็นจิเนียริง (Interesting Engineering) รายงานว่า ตัวเรือดำน้ำไร้คนขับ KSOT ซึ่งยังอยู่ในสถานะเรือต้นแบบ มีความยาว 15 เมตร ความกว้าง 2.2 เมตร และกินน้ำลึก 1.85 เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 20 นอต หรือประมาณ 37 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปฏิบัติการได้ที่ความลึกสูงสุด 350 เมตร

ทั้งนี้ ตัวเรือรองรับการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ สามารถติดตั้งอาวุธตอร์ปิโดแบบเบารุ่นปิรันย่า (Piranha) ขนาด 324 มม. ที่เปิดตัวและผ่านการทดสอบเป็นครั้งแรกเช่นกัน 

อินโดนีเซียภูมิใจที่สร้างเรือดำน้ำไร้คนขับอัตโนมัติได้เอง

นาย ซยาฟรี ซยัมโซดดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียที่เข้าร่วมชมการทดสอบกล่าวว่า “เราเป็นประเทศที่สี่ของโลกที่ผลิตเรือดำน้ำอัตโนมัติ (KSOT) ต่อจากอเมริกา, รัสเซีย และจีน นี่คือความภาคภูมิใจของเราที่สามารถผลิตยุทโธปกรณ์ที่เทียบเท่ากับประเทศระดับโลกในด้านเทคโนโลยีทางทหารได้”

โดยกองทัพเรืออินโดนีเซียและบริษัท PT PAL จะดำเนินการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รูปลักษณ์ และความสามารถในการใช้งานมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่ง Interesting Engineering ระบุว่าอินโดนีเซียมีแผนผลิต KSOT กว่า 30 ลำ ภายในปี 2026 นี้ เพื่อใช้งานทั้งในรูปแบบกองเรือดำน้ำไร้คนขับและผสมผสานกับกองเรือดำน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อไป