GLOBALink : สหรัฐฯ 'เพิกเฉยคุมอาวุธปืน' นำไปสู่ 'โศกนาฏกรรมกราดยิง'
การากัส, 29 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) นับเป็นวันที่บรรดาโรงเรียนรัฐของสหรัฐฯ เต็มไปด้วยความโกลาหลและโศกเศร้า ขณะนักเรียนหลายพันคนร่วมเดินขบวนทั่วประเทศเพื่อประท้วงเหตุกราดยิงที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองยูวัลดีของรัฐเท็กซัส เมื่อวันอังคาร (24 พ.ค.) ซึ่งส่งผลให้เด็กนักเรียนเสียชีวิต 19 ราย และผู้ใหญ่เสียชีวิตอีก 2 ราย
นักสังเกตการณ์บางส่วนระบุว่าการเพิกเฉยต่อการควบคุมอาวุธปืนของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้นำไปสู่ความรุนแรงทางอาวุธปืนที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในประเทศอันโตนิโอ กอนซาเลซ เพรสแมน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในเวเนซุเอลา กล่าวว่าโฉมหน้าที่แท้จริงของสหรัฐฯ นั้นคือประเทศผู้ผลิตปืนรายใหญ่ของโลก บริษัทผู้ผลิตต่างใช้เงินซื้อตัวนักการเมืองและพรรคการเมือง ให้เงินสนับสนุนแคมเปญ และสร้างแคมเปญเพื่อใส่ร้ายนักการเมืองที่พยายามควบคุมอาวุธปืน โดยแคมเปญเหล่านี้ต่างบอกว่าการมีปืนมากขึ้นจะทำให้เราปลอดภัย และพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกไม่มั่นคงเพื่อสร้างความกลัวที่ทำให้คนต้องการซื้อปืนมากขึ้นเพรสแมนกล่าวว่าสำหรับกรณีเหตุกราดยิงในรัฐเท็กซัสเมื่อไม่นานนี้ ฆาตกรที่ลงมือสังหารนักเรียนไม่เพียงแต่เป็นเด็กอายุ 18 ปีที่มีปัญหาทางจิตเท่านั้น แต่ยังเป็นบรรดาบริษัทที่ผลิตปืน รวมถึงระบบทุนนิยมป่าเถื่อน ที่มีการรวมหัวกันสตีเฟน อึนเดกวา จากมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งสหรัฐฯ ในเคนยา กล่าวว่าสาเหตุที่ผู้คนอยากได้กฎหมายปืนที่เข้มงวดมากขึ้นมีจำนวนลดลง อย่างแรกคือกลุ่มนักล็อบบี้สนับสนุนอาวุธปืน คนกลุ่มนี้สามารถโน้มน้าวให้ผู้คนเชื่อว่าพวกเขาจำเป็นต้องมีอาวุธปืน เมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมครั้งใหญ่ขึ้นอย่างในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนจะรีบซื้อปืนมาครอบครอง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นวงจรอุบาทว์อึนเดกวาทิ้งท้ายว่าเมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมอย่างเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ขึ้น ยอดขายปืนก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เป็นสภาพแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์เพราะปืนเหล่านั้นแทบจะไม่สามารถปกป้องเจ้าของได้