รีเซต

เพื่อนบ้านโหด มีดฟันคอดับ ฉุนทะเลาะเดือด สลดลูกสาวคนตายกำลังแต่งงาน

เพื่อนบ้านโหด มีดฟันคอดับ ฉุนทะเลาะเดือด สลดลูกสาวคนตายกำลังแต่งงาน
ข่าวสด
27 สิงหาคม 2563 ( 15:13 )
157
เพื่อนบ้านโหด มีดฟันคอดับ ฉุนทะเลาะเดือด สลดลูกสาวคนตายกำลังแต่งงาน

 

เพื่อนบ้านโหด มีดฟันคอดับ ฉุนทะเลาะเดือด สลดลูกสาวคนตายกำลังแต่งงาน

วันที่ 27 ส.ค. พ.ต.อ.สมพร พฤศวานิช ผกก.สภ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านคอกช้าง หมู่ 5 ต.บางขัน อ.บางขัน เมื่อช่วงเย็นเมื่อวาน (26 ส.ค.63) โดย พ.ต.ท.เสถียร สงพราหมณ์ สว.(สอบสวน) พร้อมแพทย์และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตคือ นายวิรัตน์ เกลี้ยงดำ อายุ 56 ปี ถูกฟันด้วยมีดพร้าเข้าที่ลำคอ 1 แผล แขนซ้าย 1 แผล และลำตัวอีก 1 แผล รวม 3 แผล เสียชีวิตคาที่

 

ต่อมาทราบว่าคนร้ายคือ นายสมเดช เยี่ยมศิริ อายุ 43 ปี ซึ่งบ้านอยู่ติดกันกับบ้านนายวิรัตน์ สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะผู้ตายกำลังปรับพื้นที่บริเวณบ้าน ในที่เกิดเหตุเพื่อเตรียมจัดงานแต่งงานของลูกสาว ปรากฏว่าได้มีปากเสียงกับนายสมเดช ที่เคยทะเลาะกันเป็นประจำในเรื่องเขตที่ดินบ้านอย่างรุนแรง ก่อนนายสมเดช จะใช้มีดพร้าฟันในร่างนายวิรัตน์ อย่างไม่ยั้งถึง 3 ครั้งจนล้มฟุบสิ้นใจตายทันทีแล้วหลบหนีไป

 

ล่าสุดวันที่ 27 ส.ค. นายสมเดช มือมีดเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ปากคำที่โรงพักบางขัน นายสมเดช ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า มีที่ดินติดกันกับบ้านของผู้ตาย วันเกิดเหตุตนขณะที่ถือมีดพร้าเดินออกจากบ้านเพื่อไปตัดต้นไม้ในสวนยางพารา และได้เจอกับผู้ตายที่หน้าบ้าน จากนั้นผู้ตาย ก็ได้ตะโกนด่ากล่าวหาว่าตนแอบเอายาฆ่าหญ้าไปฉีดต้นไม้ในที่ดินของเขาตายไปหลายต้น

 

“ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ก่อนจะมีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง และตนพยายามเดินหนีแต่ยังถูกด่าทอตลอดเวลา ทำให้วินาทีนั่นเกิดอารมณ์โกรธจนเลือดขึ้นหน้า และใช้มีดพร้าที่ถือมาฟันนายวิรัตน์ 3 ครั้งจนล้มฟุบสิ้นใจตายคาที่ หลังจากนั้นตนได้หลบหนีไปตั้งหลัก และหลังได้ปรึกษากับญาติพี่น้องแล้วจึงตัดสินเข้ามอบตัวกับตำรวจที่โรงพัก และยอมรับว่าที่ทำไปมาจากอารมณ์ชั่ววูบ” นายสมเดชฯ ให้การ

 

พ.ต.อ.สมพร พฤศวานิช ผกก.สภ.บางขัน ยังกล่าวอีกว่า ตำรวจได้ตั้งข้อหานายสมเดชฯ ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมแล้วและเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง