รีเซต

ทม.ปาดังเบซาร์ ยอมย้ายที่กักกันตัวฯ หลังชาวบ้านกว่า 100 รวมตัวกดดันเช้า-เย็น

ทม.ปาดังเบซาร์ ยอมย้ายที่กักกันตัวฯ หลังชาวบ้านกว่า 100 รวมตัวกดดันเช้า-เย็น
77ข่าวเด็ด
17 เมษายน 2563 ( 14:04 )
94
ทม.ปาดังเบซาร์ ยอมย้ายที่กักกันตัวฯ หลังชาวบ้านกว่า 100 รวมตัวกดดันเช้า-เย็น

สงขลา-สะเดา คืบหน้าเหตุการณ์ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ประมาณ 150 คน รวมตัวกดดันเรียกร้องไม่ให้ใช้ศูนย์พัฒนาอาชีพและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของเทศบาล เป็นที่กักกันคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ล่าสุดทางฝ่ายราชการยอมย้ายไปใช้ที่กักกัน ในเขตเทศบาลตำบลสำนักขามแล้ว17 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 17.30 น.ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมตัวกันประมาณ 150 คนที่บริเวณศูนย์พัฒนาอาชีพและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อคัดค้านไม่ให้ใช้ศูนย์พัฒนาอาชีพฯของเทศบาลเป็นที่กักกันคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจากโรคระบาดโควิด -19นายธีรยุทธ นาวีเดล ปลัดอาวุโส อ.สะเดา นายพัฒนา ฤทธิณรงค์ ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ และ พ.ต.ท.คณิต เต่งทิ้ง รอง ผกก.ป.สภ.ปาดังเบซาร์ ได้ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้สถานที่ดังกล่าวเพื่อเป็นการรองรับในการกักกันตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย เป็นเวลา 14 วัน

ได้มีการเชิญตัวแทนชาวบ้านเพื่อพูดคุยแสดงความคิดเห็น โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าการเตรียมการนี้ยังไม่ทราบจำนวนคนไทยที่จะมากักกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งจะใช้สำหรับคนที่มีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์เท่านั้น แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ยอมรับโดยยังเสนอให้ใช้พื้นที่อื่นๆที่ไม่ใช่ศูนย์พัฒนาอาชีพและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของเทศบาล

ซึ่งล่าสุดเวลาประมาณ 19.30 น.นายธีรยุทธ นาวีเดล ปลัดอาวุโส อ.สะเดา ได้ปรึกษากับผู้บังคับบัญชาระดับสูง และได้ข้อสรุปโดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.คณิต เต่งทิ้ง รอง ผกก.ป.สภ.ปาดังเบซาร์ ประกาศต่อหน้าชาวบ้านที่ร่วมชุมนุมว่า จะไม่มีการใช้ศูนย์พัฒนาอาชีพและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของเทศบาล เป็นที่กักกันตัวอีกต่อไป โดยจะใช้ที่กักกันตัวซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา แทน ซึ่งสร้างความพอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงพากันสลายตัวไปในที่สุด

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ โดยที่ทางเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ได้ติดต่อรีสอร์ทเก่าแห่งหนึ่งไว้ซึ่งเป็นที่พอใจของชาวบ้าน แต่ภายหลังพบว่าติดที่ข้อกฎหมายไม่สามารถใช้ได้ และยืนยันจะใช้ที่เดิม ทำให้ชาวบ้านรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียในวันพรุ่งนี้ ( 18 เมษายน ) พบว่ายังไม่มีรายชื่อของคนที่มีภูมิลำเนา ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์แต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง