รีเซต

มูลนิธิซีพี ตอกย้ำปณิธานตอบแทนแผ่นดิน ผ่านการปลูกฝัง "ศาสตร์พระราชา" ให้แก่เยาวชน รร.ตชด.

มูลนิธิซีพี ตอกย้ำปณิธานตอบแทนแผ่นดิน ผ่านการปลูกฝัง "ศาสตร์พระราชา" ให้แก่เยาวชน รร.ตชด.
TNN ช่อง16
8 ตุลาคม 2568 ( 16:53 )
5

มูลนิธิซีพี ตอกย้ำปณิธานตอบแทนแผ่นดิน ผ่านการปลูกฝัง "ศาสตร์พระราชา" ให้แก่เยาวชน รร.ตชด. สร้างรากฐานนักพัฒนาสู่สังคมชนบทที่ยั่งยืน


ตลอดระยะเวลากว่า 36 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ได้น้อมนำพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สานต่อปณิธานตอบแทนคุณแผ่นดิน ตามรอยใต้เบื้องพระยุคลบาทจนถึงรัชกาลปัจจุบัน และยังคงร่วมสืบสาน รักษา และต่อยอด งานพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบาย 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ผ่านการสนับสนุนโครงการตามแนวพระราชดำริ จำนวน 10 โครงการ เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชนบทและห่างไกลในสังคมอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 - มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร จัด "ค่ายเรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชา" โดยมี พันตำรวจโท ชาติลักษณ์ ดิเรกวัฒนะ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เหล่าพนักงาน “ซีพีอาสา” จากกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี ได้แก่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า ธุรกิจแม็คโคร (MAKRO) คณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.23 จำนวน 130 คน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการด้านการเกษตรและนวัตกรรมตามแนวทางพระราชดำริแก่เยาวชนจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด. 23 ได้สัมผัสและนำหลักการของ "ศาสตร์พระราชา" ไปประยุกต์ใช้ในอนาคต ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สกลนคร




พันตำรวจโท ชาติลักษณ์ ดิเรกวัฒนะ รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ได้กล่าวแสดงความรู้สึกยินดีที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมกล่าวขอบคุณมูลนิธิฯ ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนผ่าน “โครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ซึ่งปัจจุบันได้ขยายผลไปแล้ว 7 โรงเรียนจาก 11 โรงเรียนในสังกัด กก.ตชด.23 โดยโครงการนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่มูลนิธิฯได้มอบโอกาสอันยิ่งใหญ่แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 5 ให้เข้ามาเรียนรู้และสัมผัสกับหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน การเรียนรู้ในครั้งนี้จะช่วยปลูกฝังให้เยาวชนน้อมนำแนวทาง “สืบสาน-รักษา-ต่อยอด” ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในชีวิตจริงและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนของตนเองในอนาคต ซึ่งเป็นการเติมเต็มโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างแท้จริง

นายทนุพงศ์ ร่วมรักษ์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ศูนย์ฯ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ในโครงการตามรอยพระยุคลบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อสนับสนุนการจัด "กิจกรรมค่ายเรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชา" ในครั้งนี้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ นับเป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริแห่งหนึ่งในจำนวน 6 แห่ง ที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2525 เพื่อศึกษาและทำการเกษตรที่ทันสมัย พัฒนารูปแบบการพัฒนาแบบจำลองการทำเกษตร การป่าไม้ การปรับปรุงบำรุงดิน การพัฒนาการเกษตร และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและเป็นพื้นที่สาธิตแสดงตัวอย่างความสำเร็จจากงานวิจัยที่ทำให้ผู้คนสนใจเข้าเยี่ยมชมและศึกษาหาความรู้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ได้นำผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองไปขยายผลสู่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการถ่ายทอดความรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ การสร้างรายได้ การยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี มีชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน

ทางด้าน นายกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า การเรียนรู้ตามรอยศาสตร์พระราชาเป็นรากฐานสำคัญที่จะสร้างเยาวชนแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน  การนำน้อง ๆเยาวชนมาเรียนรู้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริผ่านกิจกรรมมากมาย ปลูกฝังให้เยาวชนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จะช่วยให้เด็กๆเยาวชนได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จและเกิดแรงบันดาลใจในการนำความรู้ "ศาสตร์พระราชา" ตามแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” โดยมูลนิธิฯ มุ่งหวังว่าความรู้ที่ได้รับจากกิจกรรมในครั้งนี้ จะถูกนำกลับไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นได้ พร้อมทั้งสามารถพึ่งพาตนเองได้จริงในอนาคต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ชายแดนต่อไป

กิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการนอกห้องเรียน โดยมีการแบ่งกลุ่มนักเรียนเข้าร่วมฐานการเรียนรู้ที่หลากหลาย ได้แก่ รับฟังการบรรยายประวัติความเป็นมาศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชมนิทรรศการภาพศิลป์ เรียนรู้การบริหารจัดการน้ำ เรียนรู้แปลงสาธิตเกษตรทฤษฎีใหม่และแปลงสาธิตเทคโนโลยีเกษตร ภายในอาคาร Information ศึกษาด้านปศุสัตว์ ศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์  และกิจกรรมด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ย้อมผ้าคราม ส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง