“กองทุนเฮดจ์ฟันด์” เข้าซื้อขายหุ้น"เอเชีย"พุ่งรอบ 5 ปี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Goldman Sachs รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกมีการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี โดยพบว่ามีทั้งการซื้อและขายชอร์ต โดยเฉพาะในฝั่งซื้อหุ้น (bullish positions) ระหว่างวันที่ 6–12 มิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 และสูงกว่าฝั่งที่วางเดิมพันว่าตลาดจะตก (bearish bets)
Goldman Sachs ระบุว่ากองทุนได้เข้าซื้อหุ้นในญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน และอินเดีย ขณะเดียวกันก็ขายชอร์ตหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งนี้แรงหนุนมาจากความคาดหวังว่าการเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างสหรัฐ–จีนในกรุงลอนดอน จะช่วยคลี่คลายสงครามการค้า ขณะที่เกาหลีใต้เลือกประธานาธิบดีคนใหม่ที่เป็นมิตรกับตลาด กระตุ้นเงินทุนไหลเข้าประเทศ
ทั้งนี้ นักลงทุนบางรายชี้ว่าแนวโน้มลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ (de-dollarization) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ก็ช่วยหนุนตลาดเอเชียโดยรวมเช่นกัน
Kier Boley, ประธานร่วมและ CIO UBP Alternative Investment Solutions กล่าวว่า “ถ้าคุณเป็นนักลงทุนต่างชาติ คุณอาจเริ่มหันกลับมาลงทุนในประเทศของตนเอง หรือในเอเชียที่ถูกประเมินค่าต่ำเกินไป”
นอกจากนี้ ดัชนี MSCI Asia-Pacific เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนนี้ นำโดยหุ้นเกาหลีใต้และไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน ดัชนีพุ่งขึ้นแล้ว 24% ได้แรงหนุนจากการประกาศเลื่อนขึ้นภาษีสหรัฐเป็นเวลา 90 วัน และสัญญาณความคืบหน้าในการเจรจาการค้า
อย่างไรก็ตาม Goldman Sachs สรุปว่าสัดส่วนการถือครองตลาดเอเชียพัฒนาแล้ว (Developed Asia) ในพอร์ตของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ Goldman ติดตามอยู่ เพิ่มขึ้นเป็น 9% ซึ่งอยู่ในเปอร์เซ็นไทล์ที่ 94 ซึ่งสูงมาก ของช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
