ระเบิดกรุงเบรุตพังราบ คาดใช้เวลาบูรณะหลายปี

วันนี้( 5 ส.ค.63) เหตุระเบิดช็อกโลกที่ท่าเรือในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร ซึ่งในช่วงแรกเกิดการคาดการณ์ต่างๆ นานาว่าจะเป็นก่อการร้ายหรือไม่ แต่ตอนนี้ได้เทคะแนนไปที่ “สารแอมโมเนียม ไนเตรท” ซึ่งถูกนำขึ้นจากเรือโดยสาร และนำมาเก็บไว้ในโกดังที่ท่าเรือแห่งนี้มาตั้งแต่เมื่อปี 2013 โดยไร้ซึ่งมาตรการควบคุมน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการระเบิดในครั้งนี้ ซึ่งทางประธานาธิบดีมิเชล อูน ได้สั่งสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิดและเร่งหาผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็วพร้อมให้คำมั่นว่าจะ “ลงโทษขนานหนัก” แน่นอน

สำหรับความเสียหายจากแรงระเบิด ทำให้กระจกบ้านเรือนในรัศมี 10 กิโลเมตรแตกออกและบ้านเรือนในรัศมี 2 กิโลเมตรแรกเกือบจะพังราบเป็นหน้ากลอง เสียงระเบิดยังได้ยินไปไกลของเกาะไซปรัส ซึ่งตั้งห่างออกไปทางตะวันตกในทะเลราว 200 กิโลเมตร 

ด้านผู้ว่าการกรุงเบรุต บอกว่า มูลค่าความเสียหายครั้งนี้อาจสูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์และเศรษฐกิจอาจล่มสลายลง เพราะภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอยางหนัก แต่เราก็จะไม่สิ้นหวังและมันอาจต้องใช้เวลา 1-2 ปี กว่าจะบูรณะกลับมาได้ใหม่ 

ภายหลังจากเหตุระเบิด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ กล่าวที่ทำเนียบขาว หลังเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่เลบานอนว่า เหตุดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นการก่อการร้าย โดยบอกว่าเขาได้พูดคุยกับนายพลหลายคนในกองทัพสหรัฐ โดยพวกเขาคาดว่า เหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนน่าจะเป็นการถูกโจมตีด้วยระเบิด เมื่อดูจากลักษณะของการระเบิดที่รุนแรงมาก และไม่น่าจะใช่การระเบิดที่เกิดจากคลังสินค้าปกติ 

แต่ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ 3 คน ได้ออกมาระบุว่ ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเหตุระเบิดที่เบรุต เป็นการ “โจมตี” แต่อย่างใด ซึ่งขัดกับที่ผู้นำประเทศได้แสดงความเห็นไปก่อนหน้านี้ 

ด้านอดีตเจ้าหน้าที่ของ CIA สหรัฐฯ โรเบิร์ต แบเออร์ ที่เคยทำงานใกล้ชิดเกี่ยวกับตะวันออกกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุระเบิดนี้ไม่น่าจะเกิดจาก “แอมโมเนียม ไนเตรท” ที่เก็บในโกดังเพียงอย่างเดียว โดยเชื่อว่าน่าจะมีบรรดาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารบรรจุอยู่นนั้นด้วย โดยอ้างถึง “กลุ่มควันสีส้ม” ที่ปรากฎบนอากาศหลังการระเบิด ซึ่งเขาบอกว่า “มันคือการระเบิดทางทหาร” แต่ก็ยืนยันว่าการระเบิดนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นการโจมตี 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีแห่งเลบานอน บอกว่า พวกเขาจะไม่หยุดพักที่จะหาความจริง จนกว่าจะพบว่า “ใครเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบเหตุระเบิดในครั้งนี้ 

สำหรับผลกระทบของการระเบิดในครั้งนี้ ยิ่งเป็นตัวซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของเลบานอน จากคู่ขัดแย้งในประเทศที่หลากหลาย หลายกลุ่มก้อนทางการเมืองรวมถึงกลุ่เฮซบุลเลาะห์ที่อิหร่านหนุนหลังด้วย 

โดยท่าเรือที่เกิดการระเบิดนี้นั้นเป็นท่าเรือที่นำเข้าสินค้าประเภทอาหารมากกว่า 80% ของทั่วทั้งประทเศ ซึ่งปัญหาการขาดแคลนอาหารในเลบานอน ก็จะยิ่งทำใหหนักหน่วงขึ้นไปอีก 

นอกจากนี้ยังซ้ำเติมการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศด้วย ที่พบผู้ติดเชื้อมากกว่า 5,000 คน แล้วและเสียชีวิต 65 คน ซึ่งก็พบว่าโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้แล้วเช่นกัน และยิ่งมีเหตุการณ์ผู้บาดเจ็บหลายพันคนก็จะยิ่งทำให้ระบบสาธารณสุขของประเทศล่มสลายลงได้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไขข้อข้องใจระเบิดเลบานอน อุบัติเหตุหรือก่อการร้าย?

นายกฯเลบานอน เผยต้นเหตุมหาวินาศกรุงเบรุต

เปิดนาทีระเบิดมรณะ ถล่มกลางเมืองหลวงเลบานอน

ประมวลภาพ ระเบิดครั้งใหญ่กลางเมืองหลวงเลบานอน

เกาะติดข่าวที่นี่