นักธุรกิจหญิงไทยร้อง ถูกกักตัวฝั่งเขมร โวยสุดแออัดห้องละ 20 คน-เสี่ยงติดเชื้อ
นักธุรกิจมันสำปะหลังไทยร้อง ถูกกักตัวที่เขมร ที่สุดแออัดห้องละ 20 คน เสี่ยงติดเชื้อ ขอนายกฯ บิ๊กตู่ช่วย เผยเป็นคนไทยคนเดียว รวมกับคนเขมร 1 พันคน
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานทางโทรศัพท์จาก น.ส.สุกัญญา โชติพรม อายุ 52 ปี ชาวต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นคนไทยที่ถูกกักตัวอยู่ในฝั่งอำเภอสำเภาลูน จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่า ตนต้องการออกจากสถานที่กักตัวโควิด-19 เนื่องจากต้องอยู่รวมกันกับคนกัมพูชาจำนวนมากถึง 1,000 คน
หลังจากได้รับการแจ้งดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไปยัง พ.อ.รณรงค์ เส็งมี ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ขอลงพื้นที่ที่อาคารศูนย์ประสานงาน ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ประจำจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานไปยังน.ส.สุกัญญาอีกครั้งหนึ่ง
โดยผู้สื่อข่าวติดต่อพูดคุยกับน.ส.สุกัญญาทางโทรศัพท์ ซึ่งน.ส.สุกัญญา เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นนักธุรกิจนำมันสำปะหลังเส้นจากประเทศกัมพูชา เข้ามาจำหน่ายในฝั่งประเทศไทยทางด้านชายแดนจังหวัดสระแก้ว โดยมีลานรับซื้อมันสำปะหลังอยู่ในฝั่งอำเภอสำเภอลูน จ.พระตะบอง จำนวน 2 ลานด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุถูกจับ ตนเดินทางข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา โดยจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยผ่านขั้นตอนการเดินทางข้ามแดนและตรวจสอบเอกสาร ประทับพาสปอร์ตเรียบร้อย พร้อมตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปฝั่งกัมพูชาเสร็จทุกขั้นตอน โดยนั่งโดยสารไปกับรถบรรทุกสินค้าปฏิบัติตามระเบียบ จากนั้นจึงเดินทางไปที่ลานรับซื้อมันของตนเพื่อตรวจสอบสินค้า จากนั้นตนให้คนขับรถวิ่งไปรับสินค้ามันสำปะหลังอีกพื้นที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับด่านบ้านแหลม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และให้กลับมารับตนที่ลานรับซื้อมันในช่วงบ่าย
น.ส.สุกัญญา กล่าวต่อว่า แต่คนขับรถกลับนำภรรยาชาวไทยกลับมาด้วย ซึ่งภรรยาของคนขับรถ เดินทางเข้าประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ และไม่มีเอกสารการเดินทาง จึงทำให้ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชากักตัวไว้ เพราะผิดเงื่อนไข ในการเข้า-ออกเกิน 2 คน ต่อจากนั้น พวกตนจึงถูกนำตัวมากักตัวไว้ที่ศูนย์โควิด อ.สำเภาลูน กัมพูชา โดยทางกัมพูชาตรวจวัดอุณหภูมิของตนอีกครั้ง ซึ่งผลการตรวจก็ปกติ และแจ้งตนว่าจะถูกกักตัว 14 วัน
ซึ่งในจุดนี้มีผู้ถูกกักกันนับ 1,000 คน และอยู่กันอย่างแออัด ห้องละ 20 คน มีห้องน้ำมีเพียง 2 ห้อง ไม่มีห้องอาบน้ำ ตนถูกให้มานอนเต็นท์อยู่ที่บริเวณสนามหญ้าใกล้กับจุดอาบน้ำ และตนเป็นผู้หญิงไทยคนเดียวที่ถูกกักตัวอยู่ที่นั่น เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและกลัวติดเชื้อ จึงอยากจะขอกลับไปกักตัวที่ฝั่งไทย หรือกักตัวที่โกดังโรงงานตนในฝั่งกัมพูชาก็ได้
“ดิฉันก็เข้าใจในสถานการณ์ในช่วงโควิดมันรุนแรง โดยสภาพที่เป็นอยู่นั้น ดิฉันอยู่ไม่ได้ มันลำบาก อีกทั้งคนที่ถูกกักกันก็เยอะ สถานที่กักกันนี้เป็นอาคารโรงเรียนคือวิทยาลัยโกลพนมซามปี (เขาน้อย32) ก็อยากให้ทางภาครัฐบาลท่านนายกฯตู่ ช่วยประสาน ย้ายสถานที่กักกันมาที่ไทย หรือจุดที่โกดังโรงงานของดิฉันในฝั่งกัมพูชาก็ได้ ซึ่งก็ยินดีให้ถูกกักกันด้วย” น.ส.สุกัญญา กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.สมโภช ภมรภูเบศวร์ รอง สว.ตม.ด่านบ้านเขาดิน กล่าวว่า ตนเพิ่งจะเปลี่ยนผลัดเวรมา ซึ่งก็พอจะทราบว่าหญิงชาวไทยถูกกักตัวอยู่ทางฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบทราบว่า ในวันนั้นเขาก็เดินทางออกโดยถูกต้องตามระเบียบการ และยังประทับเอกสารออกด้วย ซึ่งทราบว่าทางเราก็ประสานไปทาง ตม.กัมพูชา และทางกัมพูชาก็แจ้งมาว่ามันเป็นมาตรการในช่วงโควิด
เราก็ไม่นิ่งนอนใจ ไม่ได้ปล่อยปละละเลยแต่อย่างใด ซึ่งการเข้า-ออกยืนยันได้ว่า เข้าออกตามกฎระเบียบทุกประการ ก็ติดตามเรื่องนี้โดยตลอดอยู่แล้ว โดยทางกัมพูชากักตัวไว้ ซึ่งอยู่ในช่วงโควิด ทางกัมพูชาก็ต้องเข้มในประเทศของเขาด้วย