นายกฯ เผย ปธน.ฝรั่งเศส ยินดีสนับสนุนฟรีวีซ่าเชงเก้นให้ไทย
นายกฯ สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปประเด็นการหารือแบบ four eyes กับ ปธน. มาครง รับฟังข้อมูลจากนักวิชาการ EDF และ หารือกับผู้จัด Formula 1
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปภารกิจ ดังนี้
นายกฯ กล่าวว่า นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ยินดีให้ความร่วมมือ และสนับสนุนไทย ในการยกเว้นการตรวจลงตรา VISA FREE สำหรับประเทศใน Schengen โดยจะเริ่มพิจารณาได้หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาสหภาพยุโรป ซึ่งจะเสร็จสิ้นประมาณเดือนมิถุนายน และหวังว่าไม่เกินปลายปีน่าจะเสร็จสิ้น ซึ่งนายกฯ ได้ย้ำกับ ปธน.มาครงว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศเนื่องจากจะเพิ่มโอกาสการเดินทางของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ และถือเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชนได้เป็นอย่างดี
การหารือถึงการเร่งรัดการทำ FTA ไทย-EU ซึ่งน่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นภายในหนึ่งปีครึ่ง รวมทั้งมีการพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหารซึ่งจะมีการพูดคุยในรายละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดีคือในเดือนพฤษภาคม 2567 จะนำคณะนักธุรกิจไทยมาฝรั่งเศส และในเดือนกันยายนคณะธุรกิจฝรั่งเศสจะเดินทางเยือน ประเทศไทย รวมถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะไปเยือนไทยปีหน้าด้วย
โดยนายกฯ ได้เล่าถึงบรรยากาศในการหารือที่เป็นไปอย่างสบายๆ เป็นกันเอง และนายกรัฐมนตรียังได้ใช้โอกาสนี้อธิบายถึงสถานการณ์ในเมียนมา การดำเนินการต่างๆ โดยได้ย้ำว่าไทยเป็นกลาง และเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกฝ่ายมาพูดคุยกันของทุกฝ่าย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบผู้บริหาร EDF ซึ่งเปรียบเสมือนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในยุโรป เป็นผู้ส่งพลังงานให้ปลายประเทศในยุโรป รวมทั้งอังกฤษ ซึ่งได้รับฟังในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ซึ่งนายกฯ เน้นย้ำว่ามีความละเอียดอ่อน แม้ว่าในหลายประเทศได้มีการพัฒนาในด้านนี้ซึ่งถือว่าพลังงานที่มีความเสถียรสูง ราคาต่ำซึ่ง อย่างไรก็ดี นายกฯ เน้นย้ำว่า ในการดำเนินการต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างตรงไปตรงมา
โดยทางบริษัทฯ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมาย โดยพร้อมเป็นที่ปรึกษาและช่วยพัฒนา ซึ่งนายกฯ ย้ำว่าในการเดินหน้าเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ต้องให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างละเอียด ตอนนี้ยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของการศึกษา ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลต้องสอบถามประชาชน ดำเนินการอย่างโปร่งใส
จากนั้นได้พบปะกับผู้บริหาร F1 ซึ่งให้ความสนใจประเทศไทยพร้อมนัดหมายพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีถึงรายละเอียดความเป็นไปได้ ของสถานที่ ในการจัด street race ซึ่งนายกฯ มั่นใจว่าหากมีการจัดแข่งขันขึ้นจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังประเทศไทยโดยกล่าวว่าการจัดการแข่งขันเร็วที่สุดน่าจะเกิดขึ้นในปี 2027 ซึ่งไทยพร้อมเสนอตัว รวมทั้ง ไทยจะเปิดตัวโครงการใหญ่เร็วๆ นี้ เรื่องความปลอดภัยในการใช้ถนน (Road Safety) ซึ่งทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ
ที่มาและภาพจาก รัฐบาล