รีเซต

ศาลตัดสินจำคุก 14 วัน แก๊งหนุ่มใหญ่ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมดื่มสุราไม่สวมหน้ากากฯ

ศาลตัดสินจำคุก 14 วัน แก๊งหนุ่มใหญ่ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมดื่มสุราไม่สวมหน้ากากฯ
มติชน
5 เมษายน 2563 ( 18:33 )
185
ศาลตัดสินจำคุก 14 วัน แก๊งหนุ่มใหญ่ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน มั่วสุมดื่มสุราไม่สวมหน้ากากฯ
ศาลยโสธรตัดสินจำคุก 14 วัน แก๊งหนุ่มใหญ่ยโสธรฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน-ประกาศจังหวัด มั่วสุมดื่มสุรา-ไม่สวมหน้ากาก

เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 5 เม.ย.63 ศาลยโสธรอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลแขวงจังหวัดยโสธรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทรงศักดิ์ วงไกร อายุ 50 ปี ,นายนันทชัย ละครวงษ์ อายุ 32 ปี,นายโกศล น่ารักษ์ อายุ 56 ปี ,นายพรชัย สิงหา อายุ 48 ปี ,นายอภิชาติ ไชยวิเศษ อายุ 40 ปี และนายอาทิตย์ คุณรักษ์ อายุ 30 ปี ทั้งหมดเป็นชาวยโสธร จำเลยที่1-6 ในข้อหา ในความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคคิดต่อจังหวัดยโสธร(พ.ร.บควบคุมโรคติดต่อ มาตรา34(6)ฉบับที่4 ข้อ 10 ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติตต่อจังหวัดยโสธร เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคโควิด-19 จังหวัดยโสธร(เพิ่มเติม)ฉบับที่ 4 ข้อ 10 ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 และทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุอันสมควร(ป.อาญา มาตรา 368 ) จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ

โดยพฤติการณ์ระบุว่าเมื่อวันที่ 4 เมษายน 63 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจสภ.เมืองยโสธร ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบและได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มบุคคลนั่งมัวสุมดื่มสุรากันโดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ราชการจังหวัดยโสร จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้ต้องหาทั้ง 6 คน กำลังจับกลุ่มนั่งดื่มสุราขาวจำนวน 1 ขวด,สุราหงษ์ทองจำนวน 1 ขวด พร้อมอุปกรณ์การดื่มสุรา กันอยู่ที่แคร่ไม้ข้างถนนโนนตาล ต.ในเมือง อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ไม่สวมหน้ากากอนามัย อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยโสธร เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคโควิด-19 จังหวัดยโสธร (เพิ่มเติม)ฉบับที่ 4 ข้อ 10 ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว พิพากษาว่าจำเลยทั้ง6 รายมีความผิดให้จำคุกคนละ 14 วัน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุให้บรรเทาโทษเห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 7 วัน แต่ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนจึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังคนละ 7 วัน

ภายหลังได้มีญาติของจำเลยทั้ง 6 รายได้ยื่นประกันเป็นเงินสดจำนวนคนละ 4,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวหว่างอุทธรณ์คดี ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง