แคนเบอร์ราปลดล็อกดาวน์ ไฟเขียวรวมตัวที่แจ้ง-เปิดหลายกิจการ
แคนเบอร์รา, 15 ต.ค. (ซินหัว) -- วันศุกร์ (15 ต.ค.) เขตเมืองหลวงออสเตรเลีย (ACT) ยุติมาตรการล็อกดาวน์ที่กินเวลานานกว่า 2 เดือน หลังจากเริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ด้วยกรอบเวลา 7 วัน ก่อนจะขยายระยะเวลาบังคับใช้เรื่อยมา ขณะทั่วประเทศยังคงต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกที่ 3
ประชาชนในกรุงแคนเบอร์ราสามารถรวมตัวในที่กลางแจ้งได้สูงสุด 25 คน และรับแขกมาเยี่ยมบ้านได้ 5 คน ส่วนคาเฟ่ ร้านอาหาร บาร์ บริการส่วนบุคคล และกิจการค้าปลีกที่ไม่จำเป็น สามารถเปิดทำการอีกครั้งภายใต้ข้อจำกัดอันเข้มงวดที่ควบคุมจำนวนลูกค้า
ออสเตรเลียรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มกว่า 2,600 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 11 ราย เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (15 ต.ค.) โดยเขตเมืองหลวงฯ ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 35 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมของการระบาดระลอกที่ทำให้ต้องดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อยู่ที่ 1,394 ราย
แอนดรูว์ บาร์ หัวหน้ามุขมนตรีเขตเมืองหลวงฯ ระบุว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนจากการติดตามยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายวัน มาให้ความสนใจกับยอดผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล โดยเฉพาะกรณีผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือแผนกผู้ป่วยหนัก ขณะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าวัคซีนลดผู้ป่วยส่วนนี้ได้
เขตเมืองหลวงฯ จะผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมโรคระบาดเพิ่มเติมในวันที่ 29 ต.ค. ตามแผนการกลับมาเปิดภาคธุรกิจต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไปของบาร์
ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสราวร้อยละ 83.6 และฉีดวัคซีนครบโดสราวร้อยละ 65.4 แล้ว พร้อมอนุมัติชุดทดสอบแอนติเจนชนิดเร็วด้วยตนเอง 3 รายการ ซึ่งรายการหนึ่งเป็นของบริษัท หางโจว ออลเทสต์ ไบโอเทค จำกัด (Hangzhou Alltest Biotech) ที่สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป