เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ “ครั้งที่สอง” ในรอบสัปดาห์-วันเดียวหลังสหรัฐเพิ่งประณาม
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ “ครั้งที่สอง” - วันที่ 11 ม.ค. รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า คณะเสนาธิการร่วมแห่งเกาหลีใต้ (เจซีเอส) แถลงว่า เมื่อเวลา 07.27 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกาหลีเหนือ ทดสอบยิงขีปนาวุธ จากภาคพื้นมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรนอกชายฝั่งภาคตะวันออกของเกาหลีเหนือ
ถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งที่สองในช่วงเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ หลังเพิ่งทดสอบขีปนาวุธที่อ้างว่าเป็นไฮเปอร์โซนิกหรือความเร็วเหนือเสียง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ระบุว่าขีปนาวุธลูกแรกของปีที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงไม่ใช่ไฮเปอร์โซนิก เพราะยิงเป้าหมายที่ห่างออกไปไม่ถึง 700 กิโลเมตร แม้จะใช้ความเร็วสูงสุดตามเกณฑ์ของขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงก็ตาม
ด้านสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ระบุจากหน่วยงานยามชายฝั่งญี่ปุ่นว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตกนอกพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีซี) ของญี่ปุ่น
“การที่เกาหลีเหนือยังเดินหน้ายิงขีปนาวุธต่อเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง” นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าว และว่าองค์การสหประชาชาติเพิ่งเสร็จสิ้นการหารือว่าด้วยการตอบสนองต่อการทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากผู้แทนสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาขาติ ออกแถลงการณ์ร่วมกับผู้แทนจากฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และแอลเบเนีย เพื่อประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อวันที่ 5 ม.ค.
นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ผู้แทนสหรัฐประจำยูเอ็น ระบุในถ้อยแถลงเมื่อวันจันทร์ที่ 10 ม.ค. ว่า “การกระทำเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงของความผิดพลาด การยกระดับ และเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อเสถียรภาพในภูมิภาค (เกาหลีเหนือ) ลงทุนทางทหารเหล่านี้โดยบั่นทอนความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวเกาหลีเหนือ” นางกรีนฟิลด์ระบุ
และว่าการทดสอบดังกล่าวไม่เพียงแต่เพิ่มขีดความสามารถของเกาหลีเหนือทางการทหารเท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตสิ่งที่เกาหลีเหนือสามารถเสนอแก่ผู้ค้าและซื้ออาวุธผิดกฎหมายทั่วโลกได้อีกด้วย