ลูกน้องเสี่ยโป้ 14 คน โดนจับคาชายแดน เหตุลักลอบเข้าเมือง ส่งฟ้องศาลประกันตัวคนละ 4 หมื่น พร้อมกักกันโรค

สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 สนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา ออกลาดตระเวนพร้อมวางกำลังดักซุ่มตามช่องทางธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย จนกระทั่งชุดจับกุมพบคนไทยรวมทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 12 คน และหญิง 2 คน เดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติจากฝั่งประเทศกัมพูชา มุ่งหน้าถนนศรีเพ็ญของฝั่งไทย ระหว่างจุดตรวจที่ 29 และ 30 พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นเขตความรับผิดชอบของ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2563 นั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรโคกสูง โดยพบว่าคนไทยทั้งหมด ไม่มีเอกสารการเดินทางแม้แต่คนเดียว และยังยอมรับว่า ได้ลักลอบข้ามแดนกลับเข้ามาในฝั่งไทยเพื่อต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชามานานกว่า 2 เดือนแล้ว เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา หลบหนีเข้าเมืองมีโทษปรับคนละ 2,000 บาท และต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา ในจังหวัดสระแก้ว พาทีมผู้สื่อข่าวเดินเท้าเข้าไปในจุดที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นจุดที่พบตัวกลุ่มคนไทย รวมทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 12 คน และหญิง 2 คน ขณะกำลังนั่งพัก ก่อนเตรียมเดินเท้าเข้าไปยังเขตหมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง ห่างจากถนนสายความมั่นคง หรือถนนศรีเพ็ญไม่เกิน 200 เมตร

โดยเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระบุว่า จุดนี้เป็นป่าละเมาะอยู่ในเขตบ้านหนองหญ้าแก้ว ห่างจากถนนศรีเพ็ญเพียงไม่กี่ร้อยเมตร โดยกลุ่มคนไทยทั้ง 14 คน ไม่ใช่คนในพื้นที่ และการเดินเท้าเข้ามาถึงจุดนี้ได้ต้องมีคนนำพาที่ชำนาญเส้นทางอย่างแน่นอน เพราะรอบพื้นที่ป่าแห่งนี้ยังเป็นจุดอันตราย มีทุ่นระเบิดวางไว้อยู่เป็นจำนวนมาก แม้แต่ชาวบ้านในพื้นที่เอง ถึงแม้จะเข้าไปทำไร่ ทำนา หรือเข้าไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเป็นประจำทุกวันก็ยังเคยพลาดเหยียบกับระเบิดเสียชีวิตและพิการมาแล้วหลายคน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กลุ่มคนไทยทั้ง 14 คนนี้ขณะกำลังเดินเท้าข้ามแดนเข้ามาในฝั่งไทย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซึ่งได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีคนไทยกำลังลักลอบข้ามแดนเดินผ่านพื้นที่บ้านตำบลหนึ่ง อำเภอโอวจะโรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ก่อนจะวางกำลังดักซุ่มตามช่องทางธรรมชาติในฝั่งไทย กระทั่งพบตัวคนไทยทั้ง 14 คนนั่งพักดื่มน้ำอยู่กลางป่าละเมาะ เขตหมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว คนไทยทั้งหมดแจ้งว่า ได้ข้ามไปเล่นการพนันในฝั่งกัมพูชานานหลายเดือน และต้องการจะกลับภูมิลำเนา ก่อนจะส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโคกสูงดำเนินคดี

ขณะที่กระบวนการดำเนินคดีคนไทยทั้ง 14 คน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโคกสูง ได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีโทษปรับคนละ 2,000 บาท โดยได้ส่งตัวคนไทยทั้ง 14 คน ไปส่งฟ้องศาลจังหวัดสระแก้ว แต่กลับพบว่า คนไทยทั้ง 14 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้หลบหนีเข้าเมือง และยังคงอยู่ในเขตราชอาณาจักรไทย จึงทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมดต้องยื่นประกันตัวในวงเงินคนละ 40,000 บาท

โดยล่าสุด หลังจากหน่วยงานด้านความมั่นคงรายงานผลการจับกุมไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงตามลำดับชั้น ปรากฏว่า นายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือเสี่ยโป้ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มีความพยายามขอไกล่เกลี่ยเสนอเงินก้อนโต เพื่อแลกกับการให้ปล่อยตัวคนไทยทั้ง 14 คน และไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันโรค 14 วัน ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงในจังหวัดสระแก้วได้เรียกประชุมด่วน เพื่อหารือในกรณีนี้ โดยแหล่งข่าวยืนยันว่า หลังจากคนไทยทั้ง 14 คน ได้ยื่นประกันตัวในชั้นศาลแล้ว จะต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ที่โรงแรมสเตชั่นวัน ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้นายณัฐชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เดินทางไปเจรจากับกลุ่มคนไทยทั้ง 14 คนที่ศาลจังหวัดสระแก้ว เนื่องจากคนไทยทั้ง 14 คน จะไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการกักกันโรค 14 วัน