ชาวบ้านโล่งอก! จับได้แล้ว เสือโคร่ง บุกหมู่บ้าน ลากหมาไปกินกลางดึก
เสือโคร่งออกจากป่าห้วยขาแข้ง คาบหมาชาวบ้านไปกินในไร่มัน จุดเดียวกับที่เสือออกมากัดแพะเมื่อ 1 ปีก่อน เจ้าหน้าที่วางแผนจับเพื่อย้ายไปอยู่ห่างไกลชุมชน
วันที่ 12 ม.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเสือโคร่งออกจากป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี บุกกัดหมาในบ้านบึงเจริญ ต.ระบำ อ.ลานสัก ห่างจากด่านฯ ห้วยขาแข้ง 4 กม. ขณะหมานอนหลับรวมกันกับหมาตัวอื่นรวม 3 ตัว บริเวณลานข้างบ้านเจ้าของ โดยเสือโคร่งลากหมาเข้าไปในไร่มันสำปะหลัง เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวานเย็น นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อมด้วยนายสังวาล แสงสวัสดิ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา ได้จัดกำลังเฝ้าเวรที่บ้านบึงเจริญ จากนั้นเจ้าหน้าที่ห้วยขาแข้ง และพื้นที่เตรียมการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลาห้วยระบำ จำนวน 25 คน เฝ้าระวังพื้นที่ควบคุม
กระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น. ชุดเฝ้าระวังพบเห็นเสือโคร่งพยายามเดินข้ามถนน จึงส่งเสียงและส่องไฟรบกวน แต่เสือโคร่งยังคงเดินข้ามถนนมุ่งหน้าไปยังสระน้ำจุดที่เคยนำซากสุนัขไปกิน เจ้าหน้าที่จึงปรับแผนมาปิดล้อมบริเวณดังกล่าว
ต่อมาเวลาประมาณ 06.45 น. พบว่าเสือโคร่งเดินย้อนเส้นทางมาทางกับดัก และติดกับดัก นายสัตวแพทย์ประจำสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ทำการวางยาสลบและนำมาตรวจสุขภาพที่หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งแฝก
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเสือโคร่งเพศผู้ อายุประมาณ 10 ปี ซึ่งเป็นเสือที่มีอายุมาก สุขภาพจึงเป็นไปตามอายุและพบรอยแผลที่ขาจากการประเมินไม่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำติดปลอกคอวิทยุติดตามตัวเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนที่ของเสือโคร่ง
เจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นายสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำการเคลื่อนย้ายเสือโคร่งไปปล่อยสู่ป่าธรรมชาติ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่ายางแดง ห่างจากแนวเขตประมาณ 60 กิโลเมตรต่อไป