สุดล้ำ!เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ รับมือไฟป่า
ในความเข้าใจของหลายๆคนสภาวะโลกร้อนก็คือต้นเหตุของไฟป่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นและเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าในอดีต ซึ่งอันที่จริงแล้วเรื่องนี้ก็ถูกต้อบางส่วนเท่านั้น
เอเอฟพี รายงานว่า แม้จะฟังเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันแต่นักวิจัยบางกลุ่มก็ได้เสนอว่า สาเหตุที่ไฟป่ามีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความมีประสิทธิภาพของการทำงานของหน่วยดับเพลิงด้วย กล่าวคือเมื่อสามารถดับไฟในป่าได้มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดไฟป่าเป็นจำนวนมากยิ่งขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งการสังเกตครั้งนี้เกิดขึ้นจากการค้นพบถึงบทบาทสำคัญการเกิดใหม่ของต้นไม้ในป่า
ทฤษฎีดังกล่าวได้ระบุว่า ต้นไม้ที่มีอายุยืนนานที่จุดติดไฟจากความร้อนที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ได้เองโดยธรรมชาติเพื่อที่เปิดทางให้ต้นไม้ใหม่ใหม่สามารถงอกเงยและเติบโตขึ้นได้ วัฏจักรนี้ถูกทำให้ขยายวงกว้างมากขึ้น จากสภาวะการไม่สมดุลย์ทางสภาพอากาศซึ่งไปส่งผลกระทบต่อความถี่ของไฟป่าที่เกิดขึ้น ผลลัพธ์ก็คือการเกิดไฟป่าแต่ละครั้งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆและยากที่จะควบคุมมากขึ้นกว่าเก่า จึงทำให้เราก้าวเข้าสู่ยุคของ Maka-fire หรือไฟป่าครั้งยิ่งใหญ่ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ที่ออสเตรเลีย ซึ่งทำให้เกิดการรณรงค์อันตรายที่ไฟป่ามีต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของมนุษย์และสัตว์ป่า
วิธีที่จะรับมือได้ดีที่สุดก็คือการป้องกันตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์และนักผจญเพลิงก็ได้จับมือกัน พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆนำข้อมูลสำคัญสำคัญๆมาร่วมคำนวณและวิเคราะห์ อย่างสาเหตุของการเกิดไฟป่าไฟและรูปแบบการลามของไฟ จนในที่สุดก็เลือกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้ ซึ่งข้อได้เปรียบของการใช้ปัญญาประดิษฐ์มาจัดการปัญหาไฟป่าก็คือ ความสามารถในการคำนวณที่สลับซับซ้อนสูงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์ก็จะต้องใช้เวลาในการคิดคำนวณนานถึงหลายวัน
นักวิจัยป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลเกี่ยวกับไฟป่าในครั้งก่อนๆ เงื่อนไขทางตุนิยมวิทยาที่เกี่ยวข้อง และพื้นที่ป่าให้กับคอมพิวเตอร์ได้เรียนรู้ โดยมีเป้าหมายก็คือฝึกให้ Machine สามารถเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้าหากัน และออกมาเป็นโมเดลที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถใช้ในการทำนายหรือคาดการณ์ไฟป่าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การจะทำโปรเจ็คต่างๆเหล่านี้ต้องอาศัยเวลาในการสร้างคลังข้อมูลนานหลายเดือนหรืออาจจะหลายปี เพื่อจะทำให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถเข้าใจในสิ่งแวดล้อมต่างๆได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยตอนนี้มีทีมวิจัยหลายทีมที่เริ่มใช้เครื่องมือช่วยผจญเพลิงในสมัยนี้บ้างแล้ว อาทิ สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
ในอนาคตอีกไม่นานข้างหน้าเราก็จะเห็นนักผจญเพลิงที่สามารถให้คำแนะนำได้ว่า ต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถป้องกันไฟป่า แต่ในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้กระบวนการสร้างป่าใหม่ดำเนินไปได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE