ฝนถล่มปากีสถาน 2 เดือน ยอดเสียชีวิตพุ่งกว่า 800 ราย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติปากีสถานประกาศเตือนว่า ฝนมรสุมที่ตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน และสร้างความเสียหายรุนแรงทั่วประเทศ จะยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน โดยคาดว่าจะมีฝนหนักอีกอย่างน้อย 2 ระลอก ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า

ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 800 คน บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายจำนวนมาก ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพ ชาวบ้านบางส่วนวิจารณ์ว่ารัฐบาลขาดการแจ้งเตือนและช่วยเหลือไม่เพียงพอ ขณะที่สำนักงานอุตุฯ ยอมรับว่ามีปัญหาด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง

สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อการกู้ภัยถูกขัดขวางจาก ดินถล่มและซากปรักหักพัง ทำให้เจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าถึงพื้นที่ลำบาก หลายชุมชนจำเป็นต้องขุดค้นหาผู้รอดชีวิตด้วยมือเปล่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝนมรสุมรุนแรงและถี่ขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิในพื้นที่ภูเขาของปากีสถานสูงขึ้นกว่า 2.5 องศาเซลเซียสในรอบ 50 ปี ส่งผลให้ธารน้ำแข็งกว่า 7,000 แห่ง เร่งละลาย เพิ่มความเสี่ยงน้ำท่วมและดินถล่ม อีกทั้งพื้นน้ำแข็งที่หายไปเผยผิวดิน ทำให้โลกดูดซับความร้อนมากขึ้น และนำไปสู่สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น ฝนตกหนักเฉียบพลัน

ล่าสุด เมืองชิลาสเผชิญคลื่นความร้อนสูงถึง 48.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสถิติใหม่ สะท้อนถึงความเปราะบางของภูมิประเทศภูเขาและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจทำให้ปากีสถานต้องเผชิญภัยพิบัติรุนแรงบ่อยครั้งยิ่งขึ้นในอนาคต