หุ้น DELTA สุดฮอตราคาพุ่งกว่า 1,000%

ร้อนแรงทะลุปรอทสำหรับหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA  ที่ราคาเดินหน้า All Time High ใหม่ตลอดปี ล่าสุดเมื่อว้นที่ 25 ธ.ค.ปิดที่ 684 บาท  จากวันที่ 30 ธ.ค.62 ราคาปิดที่ 53.50 บาท  เพิ่มขึ้น 630.50 บาท หรือ 1,178.50%  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนุนให้บริษัทมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 853,209.02 ล้านบาท ขึ้นแท่นอันดับ 3  ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รองจากบมจ. ท่าอากาศยานไทย  หรือ AOT ที่มีมูลค่าประมาณ 892,856.25 ล้านบาท  และบมจ.ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTTที่มีมูลค่าประมาณ 1.19 ล้านล้านบาท

โดยราคาที่พุ่งกระฉูดเหนือความคาดหมาย เนื่องจากราคาหุ้นเดลต้าไต้หวัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง รับข่าวในเชิงจิตวิทยาเมื่อต้นเดือนธ.ค.เกี่ยวกับเดลต้าไต้หวันที่สามารถคิดค้นอุปกรณ์ตรวจโควิด-19  และ Tesla ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังสหรัฐฯสั่งซื้อชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ DELTA

ผนวกกับบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และSET100  ทำให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้น DELTA เป็นทวีคูณ จากที่ก่อนหน้านี้ได้รับเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global Standardและดัชนี   FTSE SET Large-Cap Index ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์จากแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้การใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุควิถีชีวิตใหม่หรือ new normal หนุนให้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล (cloud storage)ศูนย์ข้อมูล Data Center กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้เดลต้ายังทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV)  ป้อนชิ้นส่วนให้กับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสหรัฐฯและยุโรป รวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (AC EV Charger) และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็ว (DC EV Charger) รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต   ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทดึขึ้นสวนกระแสโควิด โดยไตรมาส 3/63 ฟันกำไร 2,642.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 324.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 618.39 ล้านบาท สอดรับกับยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสนี้อยู่ที่ 17,540 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็นปัจจัยให้ราคาหุ้นเด้งแรง

ขณะที่ผู้บริหารอย่าง" นายอนุสรณ์ มุทราอิศ" กรรมการบริหาร DELTA ออกมาระบุว่า ปีหน้าเน้นเทรนด์เทคโนโลยี 5 จีที่กำลังมาแรงทำให้สินค้า  Power Supply และ Server เติบโตมากขึ้นและกำลังเจรจากับลูกค้าในหลายดีลเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่าบริษัทฯพร้อมลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติส่งผลดีต่อรายได้บริษัทในอนาคตก็ยิ่งเป็นแรงหนุนให้นักลงทุนกระโจนเข้าไปซื้อขายกันกันอย่างคึกคัก

โดยในวันที่ 25 ธ.ค.วันเดียวตัวเลขการซื้อขายสูงถึง 8,600 กว่าล้านบาท แต่ราคาก็ผันผวนไม่น้อย จากที่ขึ้นไปแตะ 670 บาทเพียงเสี้ยวนาทีถูกทุบลงไป 590 บาท ก่อนเด้งกลับขึ้นมาใหม่หวาดเสียวขนาดนี้นอกจากเงินถึงแล้วใจต้องถึงเช่นกัน 

ซึ่งราคาที่พุ่งปู๊ดป๊าดนี้กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) อย่าง "นายภากร ปีตธวัชชัย" ออกมาระบุว่า ไม่กังวล และไม่พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น เพราะปัจจุบันตลท.มีกระบวนการตรวจสอบ มอนิเตอร์การซื้อขายหุ้นทุกตัวในแต่ละวันอยู่แล้ว ซึ่งหากมีอะไรพิเศษก็จะมีการแจ้งขึ้นเครื่องหมายหรือสั่งให้ซื้อขายด้วยบัญชีแคชบาลานซ์ก็ยิ่งเป็นแรงหนุนให้ราคาวิ่งฉิวไปอีก

หากดูภาพรวมผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรกของ DELTA ประกอบด้วย 1. DELTA ELECTRONICS INT'L (SINGAPORE) PTE. LTD ถือหุ้น 534.47 ล้านหุ้น คิดเป็น 42.85% 2. DELTA INTERNATIONAL HOLDING LIMITED ถือหุ้น 191.98 ล้านหุ้น คิดเป็น 15.39% 3.CITI (NOMINEES) LIMITED-CBHK-PBGSG-RESTRICTED SHARES ถือหุ้น 172.84 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.86% 4.DELTA ELECTRONICS INC. ถือหุ้น 69.12 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.54%และ 5. THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED, HONGKONG BRANCH ถือหุ้น 60.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.83% ส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อย ณ วันที่ 2 มี.ค.63 อยู่ที่ 3,888 ราย คิดเป็น 22.35% 

ขณะเดียวกันจากข้อมูลของบล.เอเชียพลัสระบุว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาดัชนีปรับขึ้นมากกว่า  21.5% มาแตะที่ระดับ 1,451.52 จุด แต่หุ้นกลับให้ผลตอบแทน  Underperform  และหากพิจารณาเป็นรายบริษัทมีหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแพ้ SET  ทั้งหมด 428 บริษัทจาก589 บริษัท หรือคิดเป็นสัดส่วน 72.7% แต่หุ้นที่ Outperform ชนะ SET มีจำนวน 161 บริษัท หรือ 27.3% ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงผลักดันหุ้น DELTA  และหากตัดผลตอบแทนเดลต้าปีนี้ออกจากดัชนีset จะปรับลงมาแตะที่ระดับ 1395.98 จุดหรือผลตอบแทน YTD ลดลงเพิ่มอีก 3.5% จากลบ 8.1% เป็น 11.4%

เมื่อรูปการณ์เป็นเช่นนี้นักลงทุนจะต้องระมัดระวังการเข้าไปลงทุน เพราะราคาหุ้นปร้บตัวขึ้นเกินป้จจ้ยพื้นฐานจึงไม่ควรไล่ซื้อเก็งกำไร หรือโดดเข้าไปลงทุนตามกระแส โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยหากพลีพลามเข้าไปไม่ศึกษาข้อมูลรอบทิศอาจต้องหามเข้าไอซียูกันบ้างหล่ะ เนื่องจากราคาหุ้นเด้งรับปัจจัยบวกไปมากแล้วถือว่ามีความเสี่ยงสูง และ DELTA เป็นหุ้นฟรีโฟลทต่ำ หรือมีหุ้นหมุนเวียนในตลาดน้อยเวลาถูกลากขึ้นลากลงได้ง่าย และกาารลงทุนเปรียบเสมือนเหรียญ 2 ด้านมีทั้งขึ้นและลงหากตะบี้ตะบันลงทุนอาจหมดตัวได้

เกาะติดข่าวที่นี่