รีเซต

"ทรัมป์" ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารรับประกันความมั่นคงแก่ "กาตาร์" หลังถูกอิสราเอลโจมตี

"ทรัมป์" ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารรับประกันความมั่นคงแก่ "กาตาร์" หลังถูกอิสราเอลโจมตี
TNN ช่อง16
2 ตุลาคม 2568 ( 13:58 )

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ประกาศใช้ทุกมาตรการทางทหารรวมถึงการใช้กำลัง “ตอบโต้กลับ” เพื่อรับประกันความมั่นคงของกาตาร์ หนึ่งในพันธมิตรของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง หากเกิดการโจมตีต่อกาตาร์ขึ้นอีก การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อกาตาร์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเดือนที่แล้วโดยอ้างว่ากาตาร์ให้ผู้นำระดับสูงของฮามาสหลายคนเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศ

คำสั่งฝ่ายบริหารดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (1 ตุลาคม) แต่คำสั่งถูกลงนามตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าทั้งสองประเทศคือ สหรัฐฯ และกาตาร์พร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อกันและจะคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการโจมตีใดใดต่อดินแดนหรืออธิปไตยของกาตาร์จะถูกนับว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ซึ่งในประเด็นนี้ CNN รายงานว่าสหรัฐฯ กำลังให้การรับประกันแก่กาตาร์ในรูปแบบเดียวกับที่ NATO ให้คำมั่นกับประเทศสมาชิกที่ระบุไว้ในมาตรการที่ 5 (Article 5) ว่าการโจมตีประเทศสมาชิกหนึ่งประเทศ จะถือเป็นการโจมตีต่อประเทศสมาชิกนาโตทั้งหมด

นอกจากนี้คำสั่งฝ่ายบริหารยังระบุว่าหากเกิดการโจมตีต่อกาตาร์ สหรัฐฯ จะพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสม อาทิ มาตรการทางการทูต, เศรษฐกิจ, หรือทางทหารที่จำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์และฟื้นฟูสันติภาพของสหรัฐฯ และกาตาร์ ด้วย

ขณะที่ ทรัมป์ออกมากล่าวว่า สหรัฐฯ และกาตาร์ มีความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิด เพราะกาตาร์เป็นพันธมิตรที่แน่วแน่ในการแสวงหาสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรือง จากบทบาทที่กาตาร์เสนอตัวเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระดับภูมิภาคและระดับโลก

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลที่อยู่ระหว่างพบปะกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาวได้กล่าว “ขอโทษ” และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผ่านการโทรศัพท์ต่อเชค มุฮัมมัด บิน อับดุรเราะฮ์มาน บิน ญาสซิม อัษษานี  (Sheikh Mohammed bin Abdulrahman bin Jassim Al-Thani นายกรัฐมนตรีกาตาร์สำหรับการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยที่ผู้นำกาตาร์ได้ตอบรับคำขอโทษของเนทันยาฮูแล้วเช่นกัน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อิสราเอลเคยกล่าวว่าการโจมตีต่อกาตาร์ในครั้งนั้นมีเป้าหมายโจมตีผู้นำระดับสูงของฮามาสในกรุงโดฮา ของกาตาร์ ซึ่งการโจมตีทำใหับุคคลากรของฮามาสเสียชีวิตหลายคน แต่ไม่ใช่ระดับผู้นำ โดยกาตาร์ได้ออกมาประณามการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนั้นว่าเป็นความ “ขี้ขลาดและการทรยศ”

ทั้งนี้ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขอบเขตที่แท้จริงของคำมั่นสัญญาจากสหรัฐฯ ยังคงเป็นที่สงสัย เพราะโดยปกติแล้ว ข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย หรือ สนธิสัญญา จะต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ก่อน แต่ประธานาธิบดีบางคนในสมัยที่ผ่าน ๆ มา บางครั้งก็ได้ทำข้อตกลงระหว่างประเทศโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เช่น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เคยทำข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจในปี 2015

ข่าวที่เกี่ยวข้อง