สื่อชี้สหรัฐฯ ฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสกระตุ้น แบบ 'ไม่ทดลองในมนุษย์'
ลอนดอน, 14 ก.ย. (ซินหัว) -- หนังสือพิมพ์เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์สของสหราชอาณาจักร อ้างอิงคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ระบุว่ามติของสหรัฐฯ ที่จะดำเนินแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสกระตุ้นรอบใหม่ โดยไม่ผ่านการทดสอบทางคลินิกกับมนุษย์ เสี่ยงทำลายความไว้วางใจจากสาธารณชน และเพิ่มความลังเลใจในการฉีดวัคซีน
รายงานระบุว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้น ชนิดสายพันธุ์คู่ (bivalent) ซึ่งบรรจุส่วนประกอบของเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ดั้งเดิม และรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.4 (BA.4) และบีเอ.5 (BA.5) เพื่อสร้างเกราะภูมิคุ้มกันให้ชาวอเมริกันมากขึ้นสหรัฐฯ จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นของไบออนเทค-ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา จำนวน 171 ล้านโดส มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.83 แสนล้านบาท) และเร่งกระบวนการอนุมัติใช้งานก่อนเสร็จสิ้นการทดลองกับมนุษย์ โดยหวังสร้างเกราะภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสฯ ซึ่งแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักได้ดีกว่าวัคซีนที่มีอยู่เดิมอย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนมองว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นดังกล่าว มีข้อมูลจำกัดจากการทดสอบกับหนูจำนวนไม่มาก และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าป้องกันการติดเชื้อหรืออาการป่วยรุนแรงดีกว่าวัคซีนที่มีอยู่เดิมอีริก โทโพล ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการสถาบันแปลงานวิจัยสคริปปส์ ระบุว่ากลุ่มผู้ต่อต้านวัคซีนและวิทยาศาสตร์มีแต่จะวิจารณ์เรื่องนี้ หากปราศจากข้อมูลหรือไม่มีผลลัพธ์การทดลองกับมนุษย์เลยแม้เพียงนิด พร้อมเสริมว่าตอนนี้มีกลุ่มคนเรียกวัคซีนดังกล่าวว่าเป็นวัคซีนหนูอยู่แล้ว ซึ่งสะท้อนว่าสหรัฐฯ มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในวัคซีนและไม่ควรทำให้ปัญหานี้รุนแรงกว่าเดิม