อเมริกันฮือจี้ปลด"ทรัมป์"พ้นตำแหน่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ภาคประชาสังคมและบรรดานักการเมืองทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน ออกมาเรียกร้องเมื่อวันที่ 6 มกราคมนี้ ให้มีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พ้นตำแหน่ง ฐานยุยงให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกรุกอาคารรัฐสภา สร้างความเสียหายให้กับสถานที่และสร้างความเสื่อมเสียให้กับระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ชี้พฤติกรรมเข้าข่ายก่อการกบฏขึ้นในประเทศ

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตอย่างน้อย 2 รายแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อโซเชียลให้ใช้กระบวนการอิมพีชเมนต์ เพื่อถอดถอนทรัมป์ ทั้งๆ ที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันหลงเหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียง 14 วันเท่านั้น โดยนางอิลฮาน โอมาร์ ส.ส.เดโมแครตจากรัฐมินเนโซตาระบุไว้ในทวิตเตอร์ว่า “เราไม่สามารถปล่อยให้เขา(ทรัมป์)อยู่ในตำแหน่งได้อีกแล้ว นี่เป็นเรื่องของการรักษาประเทศเอาไว้ และเป็นการดำเนินการตามที่ให้สัตย์ปฏิญาณเอาไว้” และเปิดเผยด้วยว่าได้เริ่มต้นร่างญัตติเพื่ออิมพีชทรัมป์แล้ว ในขณะที่ นาง อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เตซ ส.ส.เดโมแครตอีกรายทวีตสั้นๆ ว่า “อิมพีช” ในขณะที่ นาย เดวิด ซีซิลไลน์ ระบุว่าคองเกรสควรดำเนินกระบวนการอิมพีชเมนต์และเอาผิดกับทรัมป์

แหล่งข่าวในสภาคองเกรสรายหนึ่งเปิดเผยว่าพรรคเดโมแครตอาจนำเสนอร่างญัตติอิมพีชเมนต์เพียงประเด็นเดียวเข้าสู่การพิจารณาได้โดยเร็วแต่กระบวนการอาจล้มเหลวในขั้นการพิจารณาของวุฒิสภา ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากสมาชิกพรรคเดโมแครต ยังมีสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนออกมาเรียกร้องทำนองเดียวกัน โดยนายแอนโทนี สคารามุชชี อดีตผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของทำเนียบขาวที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กับเจ้าหน้าที่ในทำเนียบที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดควรถูกนำเข้าสู่กระบวนการอิมพีชเมนต์และถอดถอนพ้นตำแหน่ง เพราะสร้างความเสียหายให้กับสถานะของประเทศในเวทีประชาคมโลก และกำลังคุกคามต่อวิถีชีวิตอเมริกันอย่างร้ายแรง

ในส่วนของภาคประชาสังคม องค์กรสิทธิพลเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐอเมริกาอย่าง สมาคมแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของผู้คนหลากสี (เอ็นเอเอซีพี) ออกมาเรียกร้องในทำนองเดียวกัน โดยนายลีออน รัสเซลล์ ประธานเอ็นเอเอซีพี ระบุว่า การยุยงให้เกิดการรัฐประหารถือว่าเป็นความผิดที่เข้าข่ายอิมพีชเมนต์ อย่างไรก็ตาม นายรัสเซลล์เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีของทรัมป์ ริเริ่มนำเอารัฐบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 มาใช้ในการถอดถอนทรัมป์ โดยรัฐบัญญัติดังกล่าวให้อำนาจคณะรัฐมนตรีและรองประธานาธิบดี ถอดถอนประธานาธิบดีพ้นตำแหน่งได้ทันที ในกรณีที่ลงความเห็นว่า ประธานาธิบดีไม่อยู่ในฐานะที่จะบริหารประเทศได้ หากได้รับความเห็นชอบในรัฐสภา

นายเจย์ ทิมมอนส์ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) ของ สมาคมโรงงานผู้ผลิตแห่งชาติ (เอ็นเอเอ็ม) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกามากกว่า 14,000 บริษัท รวมทั้ง เอ็กซอนโมบิล, ไฟเซอร์ และ โตโยตา มอเตอร์ ออกมาเรียกร้องให้ใช้อำนาจตามรัฐบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 มาใช้ในการถอดถอนทรัมป์พ้นตำแหน่งโดยทันทีเช่นเดียวกัน