รีเซต

SME D Bank รับหนี้เสียสิ้นปีเตะ 20%

SME D Bank รับหนี้เสียสิ้นปีเตะ 20%
TNN ช่อง16
9 ตุลาคม 2563 ( 16:05 )
191
SME D Bank รับหนี้เสียสิ้นปีเตะ 20%

วันนี้(9ต.ค.63)นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เปิดเผยว่า ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 40,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ปล่อยได้ 38,000 ล้านบาท ขณะที่ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ลดลง จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้สินเชื่อที่ต้องจับตาพิเศษว่าจะเป็นหนี้เสีย(เอสเอ็ม) เพิ่มขึ้นจากปกติ 5,000 ล้านบาท เป็น 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะถูกลดชั้นไปเป็นหนี้เสีย หรือ NPL ราว 3,000 ล้านบาท 

ทำให้สถานการณ์หนี้เสียโดยรวมของธนาคาร ที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 17% หรือราว 17,000 ล้านบาท สิ้นปีอาจเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 2 หมื่นล้านบาท หรือ 20% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้างราว 1 แสนล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่า การบูรณาการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ของหลายหน่วยงาน จะทำให้ผลกระทบลดน้อยลง ไม่กระทบต่อหนี้เสียของธนาคาร และมั่นใจว่าธนาคารจะไม่ต้องเข้าสู่แผนฟื้นฟูฯ อีกครั้ง

เพื่อเป็นการดูแลลูกหนี้เอสเอ็มอีให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ธนาคารจึงได้ขยายมาตรการพักหนี้ช่วยลูกหนี้เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพิ่มเติมอีก 6 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 22 ต.ค.นี้ ออกไปถึงเดือนเม.ย.2564 โดยให้สิทธิลูกค้าที่มีสถานะชำระปกติ ณ วันที่ 31 ก.ค.2563 สามารถขยายเวลาพักเงินต้น และให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ส่วนหนี้ที่พักไว้ ธนาคารจะยกยอด ไปรวมให้ชำระในช่วงท้ายของสัญญา และในช่วงที่ผ่อนปรนนี้จะไม่ถือว่าเสียประวัติข้อมูลเครดิต

ทั้งนี้ลูกค้าที่ต้องการพักชำระหนี้เงินต้นเพิ่มเติม 6 เดือน สามารถลงทะเบียนผ่านคิวอาร์โค้ดในใบแจ้งหนี้ที่ทางธนาคารจะส่งไปให้ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยที่ผ่านมาเอสเอ็มอีแบงก์ ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติให้ลูกค้าทุกรายเป็นเวลา 6 เดือนไปแล้ว 43,215 ราย มูลค่ารวม 66,479 ล้านบาท

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง