UPA ทุ่ม 817 ลบ. ลุยสินทรัพย์ดิจิตอลในสปป.ลาว
#UPA #ทันหุ้น - บอร์ด UPA ไฟเขียวแตกไลน์ธุรกิจเข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ใน สปป.ลาว มูลค่ากว่า 817.7 ล้านบาท พร้อมสั่งซื้อเครื่องขุดเหรียญคริปโตฯ รวม 8,000 เครื่อง ผู้บริหาร“กวิน เฉลิมโรจน์”ระบุเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพสามารถผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมปักหมุดปี 65 โตก้าวกระโดด
นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565ที่ผ่านมามีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในวงเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 817.7 ล้านบาท
ทั้งนี้จะแบ่งเป็น UPA และ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS) จะถือหุ้นร่วมกันในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ (Singapore Holding) และ Singapore Holding จะถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos Holding) และ Laos Holding จะเข้าลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Operating Company) ในสัดส่วนร้อยละ 50 และ ร้อยละ 50 ตามลำดับ ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
โดย UPA และ AIFS ผ่าน Laos Holding จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ (เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่ขุดได้) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ Operating Company ที่ได้รับจากเหมืองขนาด 30 เมกะวัตต์ โดยจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว จำนวน 30 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น การซื้อไฟฟ้าจำนวน 20 เมกะวัตต์ ที่เหมืองที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีได้ถึง 6,000 เครื่อง และการซื้อไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ เพื่อสำรองการขยายโครงการ
นอกจากนี้บริษัทจะลงทุนในเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 2,000 เครื่อง เพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัทในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ตาม โดยบริษัทฯ มีหน้าที่จัดหาเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี และคู่สัญญามีหน้าที่ดำเนินการธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงการจัดหาและรับผิดชอบค่าไฟฟ้า คนงาน และค่าใช้จ่าย ๆ อื่น โดยจะแบ่งสัดส่วนการแบ่งผลประโยชน์ร้อยละ 60 และ ร้อยละ40 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วนร้อยละ 60 และคู่สัญญาได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 40ของเหรียญที่สามารถขุดได้
อย่างไรก็ตามการลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนให้หุ้น หรือการลงทุนในทรัพย์สินนั้น จะเป็นการขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลบิทคอยน์เป็นหลัก รวมทั้งสามารถพิจารณาปรับเครื่องขุดบางส่วน เพื่อขุดคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น เช่น อีเธอร์ (Ether) หรือ ไลท์คอยน์ (Litecoin) ได้ ขณะที่วงเงินการลงทุนในหุ้นและการลงทุนในทรัพย์สิน โดยสามารถทยอยลงทุนเป็นเฟส ๆ เช่นกัน
"การเข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่ผ่านมาได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้เป็นอย่างดี และใช้เวลามาระยะหนึ่งแล้ว เราเชื่อว่าจะช่วยเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจ และเพิ่มยอดรายได้และกำไรให้แข็งแกร่ง นอกเหนือจากธุรกิจในพอร์ต ธุรกิจโรงไฟฟ้า อสังหาฯ เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นการผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง"
สำหรับ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 จะเห็นการเติบโตก้าวกระโดด จากการทยอยรับรู้รายได้จากผลตอบแทนในการลงทุนในโครงการต่างๆตลอดปีที่ผ่านมา รวมทั้งการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายการลงทุนในทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นกัน