เวนิสจมน้ำวันที่ 2 อิตาลีเตือนภัยสูงสุดน้ำท่วม
วันนี้ ( 10 ธ.ค. 63 )น้ำยังคงท่วมเมืองเวนิส ซึ่งได้ฉายา “เมืองแห่งสายน้ำ” ของอิตาลี เป็นวันที่ 2 จตุรัสเซนต์มาร์ค ซึ่งเป็นจุดที่มีพื้นที่ต่ำที่สุดในเมืองเวนิส ได้รับความเสียหายหนัก ระดับน้ำท่วมสูงถึงต้นขาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สร้างความเสียหายหนักแก่โบสถ์เซนต์มาร์คในจตุรัสดังกล่าว ซึ่งมีอายุเก่าแก่นับพันปี ย้อนหลังไปได้ถึงศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ยังไม่ฟื้นตัวดี จากน้ำท่วมหนักในเวนิสเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่สร้างความเสียหายให้แก่ผนังหินอ่อนภายในโบสถ์
ในที่สุด ระบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมเมืองเวนิส ที่มีชื่อว่า “โมส” (Mose) ก็มีการเปิดระบบ ให้กำแพงยกตัวขึ้นเพื่อปกป้องเมืองเวนิสแล้ว เพื่อกั้นน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าสู่เมืองเวนิส ซ้ำเติมน้ำท่วมได้อีก
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เปิดระบบกำแพงกั้นน้ำท่วมโมส ไม่ทันกาลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากพยากรณ์อากาศผิดพลาด โดยคาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่ตก น้อยกว่าเกณฑ์ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เตรียมเปิดระบบโมส จนทำให้น้ำท่วมเวนิสตั้งแต่วันอังคาร เนื่องจากการเปิดระบบโมส ซึ่งเป็นระบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมขนาดใหญ่ มีประตูกั้นน้ำทั้งหมดถึง 78 บาน ต้องใช้เวลาเปิดนานถึง 48 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ในเมืองเวนิสระบุว่า กำแพงป้องกันน้ำท่วมโมส จะเปิดนาน 3 วันตั้งแต่วันพุธจนถึงวันศุกร์นี้ หลังจากพยากรณ์อากาศคาดว่า จะเกิดน้ำทะลุหนุนสูงอีกหลายครั้งจนถึงวันศุกร์นี้ โดยระดับน้ำทะเลหนุนเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 123 เซนติเมตร คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 135 เซนติเมตร และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 140 เซนติเมตรในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ อิตาลีเพิ่งเริ่มใช้ระบบกำแพงป้องกันน้ำท่วมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง และประสบความสำเร็จ ทำให้เมืองเวนิสสร้างประวัติศาสตร์ สามารถป้องกันน้ำทะเลหนุนสูง ไม่ให้ทะลักเข้าท่วมเมืองเวนิสได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1,200 ปี
ขณะเดียวกัน อิตาลียังคงเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนหนักทั่วประเทศเมื่อวานนี้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ มีการเตือนภัยระดับสูงสุดสีแดงใน 2 พื้นที่คือ แคมปาเนียและอัลโต้ อาดิเก และระดับสีส้มและสีเหลืองในอีกหลายพื้นที่ รวมถึงทัสคานี่ , ซิซิลี และซาร์ดิเนีย
ในกรุงโรม ลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้ใหญ่ล้ม ทับรถที่จอดอยู่ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และเกิดดินถล่มในเวเนโต้ ทำให้ถนนถูกตัดขาด เกิดโคลนถล่มทับถนนในทัสคานี ทำให้ต้องปิดถนน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากดินโคลนถล่มทั้ง 2 จุด ฝนที่ตกอย่างหนักยังทำให้เกิดหลุมยุบ ประชาชนราว 10,000 คนเดือดร้อนจากไฟฟ้าดับ โรงเรียนปิดเรียนทั่วพื้นที่ที่เผชิญสภาพอากาศแปรปรวน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline