แนะเลี่ยง "ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก" ขนย้ายเครื่องจักร ปิดจราจรบางเวลา ถึง 15 พ.ค.68

งานจราจร สน.บางซื่อ ประกาศ โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทาง ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก ตั้งแต่แยก อตก.- ถึงจุดกลับรถสวนสิริกิติ์ เนื่องจากมีการขนย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากพื้นที่ จำเป็นต้องปิดการจราจรเป็นบางช่วงเวลา เริ่มตั้งแต่ วันที่ 13 พ.ค.68 เวลา 06.00น. ถึง วันที่ 15 พ.ค.68 เวลา 18.00 น.
ตั้งมั่นค้นหาผู้สูญหายตราบจนวินาทีสุดท้าย
(12 พ.ค. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่และสุนัข K9 จากกรมการสัตว์ทหารบก นำสื่อมวลชนลงพื้นที่สังเกตการปฏิบัติการค้นหาชิ้นส่วนผู้สูญหาย ณ บริเวณด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร ซึ่งเป็นจุดทิ้งซากอาคาร สตง.
นายภุชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 3 กล่าวว่า ภาพรวมการปฏิบัติงานกู้ภัย เราจะมีการเก็บข้อมูลของผู้สูญหายจากการสอบปากคำญาติและผู้เกี่ยวข้องและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เมื่อวิเคราะห์แล้วเราจึงพุ่งเป้าการค้นหาไปที่ช่วงบันไดที่คาดว่าจะมีผู้สูญหายรวมกันอยู่เยอะที่สุด แต่เป็นเรื่องยากที่จะมีผู้รอดชีวิตเพราะการถล่มของตัวอาคารทับซ้อนกันเป็นชั้นแพนเค้กทำให้มีช่องว่างน้อยมากซึ่งยืนยันได้จากการกู้ซากค้นหาตลอดเวลาที่ผ่านมา
นายภุชพงศ์ กล่าวต่อไปว่า แต่ความท้าทายที่ยากยิ่งกว่านั้นคือการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคาร เนื่องจากความสูงของอาคารในวันเกิดเหตุสูงถึง 137 เมตร หลังการถล่มกลายเป็นกองซากอัดแน่นเหลือ 26.8 เมตร เป็นงานที่ยากมากในการค้นหาแต่เราก็พยายามเต็มที่ และพบร่างผู้เสียชีวิตมากที่สุดที่เราประกอบเป็นร่างได้ 89 ร่าง ซึ่งยังคงสูญหาย ณ ตอนนี้ 7 ราย จากนี้เป็นกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะพิสูจน์ชิ้นส่วนกว่า 200 ชิ้นที่เก็บกู้ได้เพื่อยืนยันจำนวนผู้สูญหายต่อไป
นายภุชพงศ์ กล่าวอีกว่า สุดท้าย เมื่อเรานำร่างผู้สูญหายออกจากอาคาร จะมีการขนวัสดุต่าง ๆ มารวมกันที่จุดทิ้งกองซากอาคารซึ่งตอนนี้สูงราว 8 เมตร แต่จะลดลงให้ได้เหลือ 6 เมตร เนื่องจากป้องกันดินสไลด์รอบ ๆ พื้นที่ เป็นการคำนึงถึงผลกระทบสภาพแวดล้อมรอบงาน โดยระหว่างนี้จะมีการตรวจสอบโดยสุนัข K9 และทีมกู้ภ้ยทุกวันในตอนเช้าและเย็น ดำเนินการค้นหาชิ้นส่วนผู้สูญหายเพื่อนำไปตรวจสอบเทียบ DNA กับญาติที่ได้ตรวจเป็นข้อมูลไว้แล้ว วันนี้ก็ได้นำสื่อมวลชนมาดูกระบวนการทำงานของทีมในพื้นที่เก็บซากอาคารให้เห็นภาพความละเอียดในการทำงานของเรา
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวเสริมว่า วันนี้สื่อมวลชนจะได้เห็นภาพและกระบวนการทำงานของสุนัข K9 ในส่วนรั้วที่สำนักการโยธา กทม. มีการล้อมกองซากเศษปูนไว้ก็จะยังคงไว้ เพราะยังถือเป็นพื้นที่ที่ต้องมีทั้งหลักฐานและวัสดุอุปกรณ์ ไม่สามารถมีใครนำออกไปได้ ดังนั้นจึงจะต้องรักษาความปลอดภัยต่อ รวมทั้งกล้องที่ กทม. ติดไว้นั้น วันพรุ่งนี้จะมีการประชุมหารืออีกครั้งว่าจะยังคงเหลือกล้องไว้ที่จุดใดบ้าง ทั้งนี้ เมื่อส่งมอบพื้นที่ ทางตำรวจจะอายัดพื้นที่ต่อเพื่อดำเนินการในเชิงรูปคดีต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่เทคนิคการฝึกจากศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก กล่าวว่า เราทำการค้นหาตั้งแต่แรกเริ่มที่มีการทะยอยนำดินจากตึก สตง. มาไว้ ณ จุดนี้ โดยค้นหาทั้งเช้าและเย็น ในเรื่องการค้นหานั้น สุนัขต้องการสติ สมาธิ และอิสระ วันนี้จะได้เห็นว่าทีมสุนัข K9 ค้นหาอย่างไร หากเจอหรือไม่เจอชิ้นส่วนมนุษย์จะทำอย่างไร ทั้งนี้ จากการค้นหาเราไม่เจอชิ้นส่วนมนุษย์มาร่วมนับสัปดาห์แล้ว แต่เพื่อความแน่นอนจึงต้องใช้สุนัข K9 จนวินาทีสุดท้ายเพื่อเคลียร์พื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จบภารกิจ! ตึก สตง. ถล่ม เตรียมถอนกำลัง-ปิดศูนย์บัญชาการฯ 15 พ.ค. 68
- แผ่นดินไหวล่าสุด! เยียวยาผู้เสียชีวิตตึก สตง. ถล่มแล้วกว่า 38 ล้าน
- เปิดขั้นตอนรับเงินเยียวยาครบวงจรเหตุ "แผ่นดินไหว" ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน
- แผ่นดินไหวล่าสุด! "อนุทิน" เผยเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท