เตือนภัย! สาวกินแล้วหนี เนียนทิ้งกระเป๋าไว้บนโต๊ะให้ตายใจ โดนไปแล้วกว่า 10 ร้าน

เตือนภัย! สาวกินแล้วหนี สั่งอาหารไว้เต็มโต๊ะ บอกเดี๋ยวจะมีเพื่อนมาด้วย ก่อนทำทีออกไปนอกร้าน ทิ้งกระเป๋าไว้ให้ตายใจ หนีลอยนวล โดนไปแล้วกว่า 10 ร้าน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 พ.ค.65 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Matthew Chavel โพสต์ข้อความระบุว่า “เตือนภัย ร้านค้าร้านอาหารร้านไหนพบเจอ ผู้หญิงในภาพนี้ระวังให้ดีนะครับ พฤติกรรมสุดแสบนางคือ จะตระเวนออกไปหานั่งแดกอาหารตามร้านต่างๆ สั่งเยอะๆแล้ว จะแกล้งโทรศัพท์บอกว่าเพื่อนมาเพิ่ม พอแดกอิ่มสักพักจะทำที วางกระเป๋าไว้เพื่อให้พนักงานตายใจ

ซึ่งในกระเป๋าไม่มีอะไรเลย แล้วบอกจะออกไปรับเพื่อนแปปนึง ล่ะก็วิ่งหางจุกตูดเลย ก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน ร้านไหนเคยเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้เลยนะครับ ปล่อยไว้ก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ #คน…2022 #ขายของก็ยากแล้ว ยังมาเจอคนแบบนี้อีก”

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังร้านแฟมิลี่สเต็ก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบกับ นายแมทธิว ตะโม อายุ 28 ปี เจ้าของร้าน แฟมิลี่ สเต็ก เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 เวลา 13.45 น. เขาเหมือนเดินทำทีมาเลือกร้าน แล้วก็เข้ามานั่งทานอาหารในร้านของตน สั่งอาหารมาเยอะอยู่ แต่นั่งทานคนเดียว

พอทานเสร็จก็ทำทีบอกพนักงานว่า เดี๋ยวจะมีเพื่อนมาอีกแล้วก็สั่งอาหารเพิ่ม เพื่อให้พนักงานตายใจว่า จะมีเพื่อนเข้ามาจริงๆ แล้วก็จะวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะ ซึ่งพอมาเปิดดูภายในกระเป๋าก็ไม่มีอะไร เป็นกระเป๋าเปล่าๆ พร้อมกับซองเอกสาร ซึ่งในซองมีเอกสารทะเบียนบ้านแต่ไม่ใช่ของตัวเขา เหมือนเอาไว้หลอกให้ไปตามตัวผิดที่อะไรแบบนี้ หลังจากนั้นก็เดินออกจากร้านไปขึ้นรถก่อนหนีไป

นายแมทธิว กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนโพสต์เตือนลงในเฟซบุ๊ก ก็มีคนที่โดนเหมือนตน ทักเข้ามาหาและบอกว่าเขาก็โดน ซึ่งมีคนที่ทักมาหาหลายคนมาก โดนแบบเดียวกันคือมานั่งทานอาหารแล้วทิ้งกระเป๋าไว้ ก่อนจะเดินหนีออกไป นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีร้านขายของ ร้านส่งพัสดุ ร้านค้าข้างทาง ก็โดนเหมือนกัน

ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่คิดอะไร คิดว่าทำบุญไป เพราะค่าอาหารแค่ 600 บาทเท่านั้น แต่พอมารู้ว่ามีร้านอื่นโดนทำแบบเดียวกัน ซึ่งบริเวณโซนบ้านกล้วยไทรน้อยร้านตนน่าจะเป็นร้านแรก แต่ในซอยวัดลาดปลาดุกนี้โดนกันเป็น 10 ร้าน เหมือนว่าพอทำพฤติกรรมแบบนี้ในซอยวัดลาดปลาดุกไม่ได้แล้ว เพราะเขารู้กันหมดแล้ว ก็เลยขยับออกมาโซนอื่นบ้าง ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้

ตนมาทราบชื่อที่หลังจากคนที่เคยโดนผู้หญิงคนนี้โกงว่า ตอนนี้เขาใช้ชื่อ 'โชติกา' พอเอาชื่อไปเสิรช์ดูในกูเกิ้ลก็พบว่าเป็นบุคคลที่ติดแบล็คลิสต์ มีประวัติการโกงเยอะมาก ติดอันดับต้นๆ หลังจากนี้ก็จะไปแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตร.นำตัวมาดำเนินคดี และอยากถามว่า เขาทำแบบนี้ไปทำไม

ด้าน น.ส.ลาวัลย์ ศรีวิลัย อายุ 30 ปี เชฟประจำร้าน แฟมิลี่ สเต็ก อยู่ในร้านตอนเกิดเหตุ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเข้ามานั่งทานอาหารในร้านเพียงคนเดียว พอทานอาหารไปได้ซักพักก็สั่งอาหารเพิ่ม โดยอ้างว่าเดียวจะมีเพื่อนมานั่งทานด้วย สักพักเขาก็เรียกพนักงานพร้อมกับบอกว่า พี่ขอออกไปรับเพื่อนด้านนอก พร้อมกับทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ที่โต๊ะ พอเขาออกไปนอกร้านเขาก็วิ่งๆ พร้อมทำท่ากวักมือเหมือนเรียกอะไรสักอย่าง

สักพักเขาก็หายไป น้องในร้านจึงเข้ามาเรียกตนให้มาช่วยดูในกระเป๋าหน่อยว่ามีเงินไหม แต่พอเปิดออกดูไม่พบเงินเลยแม้แต่บาทเดียว พร้อมกับเปิดดูเอกสารพบแค่ทะเบียนบ้านใบเดียว จึงรีบวิ่งตามออกไป แต่ก็ไม่พบตัวผู้หญิงคนดังกล่าวแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้าน ไอ บ๊อก (I Box) ที่หมู่บ้านพฤกษา 3 จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นร้านที่ผู้หญิงคนดังกล่าวก่อเหตุ ก่อนจะได้เงินไปจำนวน 3,000 บาท น.ส.ศิรินภา อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน I Box กล่าวว่า ที่ร้านตนเคยโดนผู้หญิงคนนี้เข้ามาก่อเหตุที่ร้าน เมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 วันนั้นตนไม่อยู่ร้าน มีแต่น้องพนักงานอยู่ร้านคนเดียว โดยทำทีเป็นว่าจะเข้ามาส่งของ ถือกล่องพัสดุมาเยอะเเยะ ก่อนจะขอให้น้องพนักงานโอนเงินเข้าบัญชีของตนจำนวน 3,000 บาท

หลังจากที่น้องพนักงานโอนเงินให้แล้ว ก็อ้างว่าเดี๋ยวจะไปเอาเงินที่รถมาให้ พร้อมกับทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ใบนึง และของที่จะส่งอีกหลายกล่อง พอออกไปแล้วเขาก็ไม่กลับเข้ามา หลังจากนั้นน้องพนักงานก็โทรหาตนและบอกว่าให้ตนรีบเข้ามาที่ร้าน เพราะที่ร้านโดนแล้ว ตนจึงรีบเข้ามา และทราบเรื่องจากน้องพนักงาน

น.ส.วรรณสา ตะปูทอง (น้ำ) อายุ 18 ปี พนักงานร้าน I Box เล่าว่า ตอนเกิดเหตุผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามาคนเดียวพร้อมกับถือกล่องจะส่งให้ลูกค้าหลายใบ โดยทำทีเหมือนเป็นลูกค้าประจำ หยิบโน้นนี่เอง พร้อมกับคุยเหมือนสนิทกันมาก และบอกให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีให้หน่อยจำนวน 3,000 บาท เดียวจะไปเอาเงินสดมาให้

พอตนโอนเสร็จผู้หญิงคนดังกล่าวก็ขอออกไปเอาเงินที่รถ พร้อมกับวางกระเป๋าสะพายสีแดงไว้ที่โต๊ะ และฝากส่งของที่นำมาวางไว้ที่ร้านอีกหลายกล่องด้วย แต่ตนก็ไม่เห็นหญิงคนนั้นเดินกลับมาอีกเลย จึงคิดว่าตนโดนหลอกแล้วแน่ๆ จึงรีบโทรหาเจ้าของร้านทันที และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง

น.ส.ศิรินภา ยังบอกอีกว่า มีหลายร้านที่โดนในลักษณะเดียวกันเพราะว่าหลังจากที่ร้านของตนโดนไปแล้วจึงไปถามร้านข้างๆ ปรากฏว่าร้านข้างๆ ก็โดนเหมือนกัน บอกลักษณะผู้หญิงคนนี้เหมือนกันหมด พฤติกรรมที่ทำเหมือนกันคือวางกระเป๋าทิ้งไว้เหมือนกัน มีหลาย 10 ร้านที่โดน

หลังจากนั้นก็ติดต่อขอคืนเงินจากทางฝั่งผู้หญิงคนดังกล่าวมา และนำเงินมาคืนที่ร้านตนจำนวน 3,000 บาท และไปติดต่อขอคืนเงินร้านอื่นๆ อีกด้วย ก่อนจะขอโทษและบอกว่าจะไม่ทำอีก ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ติดใจเอาความอะไร

ต่อมาพอเห็นร้านสเต็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กว่าโดนในลักษณะแบบนี้ ตนจึงทักไปถามก็ปรากฏว่า เป็นน้องผู้หญิงตนที่เคยเข้ามาโกงเงินที่ร้านไป กลับมาทำแบบเดิมอีกแล้ว หากว่ามีอาการป่วยทางจิต อยากให้ทางครอบครัวนำตัวไปรักษา จะได้ไม่ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เขาเดือดร้อนกันอีก

ที่มา มติชนออนไลน์