อนุทินมั่นใจสาธารณสุขไทยแข็งแกร่ง ดันไทยสู่ “Health Hub of The World”

นายกฯ หนุนระบบสาธารณสุขไทยก้าวสู่ศูนย์กลางสุขภาพโลก
วันที่ 19 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ธรรมาภิบาลทางการแพทย์กับการพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืน” ภายในงานสัมมนาวิชาการแพทยสภาและสถาบันมหิตลาธิเบศร 2568 ย้ำความภาคภูมิใจในระบบสาธารณสุขไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมประกาศเป้าหมายผลักดันประเทศสู่ “Health Hub of The World”
นายอนุทินกล่าวว่า ความรู้และเครือข่ายที่ได้รับจากหลักสูตร “ธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.)” มีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่รัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีน เปิดโรงพยาบาลสนาม และบริหารระบบสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนประเทศไทยได้รับคำชื่นชมจากองค์กรนานาชาติในด้านความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของระบบสุขภาพ
ดึงเทคโนโลยี–AI ยกระดับบริการสุขภาพ
นายกรัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีด้านการแพทย์ เช่น การใช้ AI ช่วยวินิจฉัยและรักษาโรค รวมถึงระบบข้อมูลสุขภาพอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการรักษา
รัฐบาลเตรียมงบดูแลผู้สูงอายุ–ฟอกไตฟรี
นายอนุทินย้ำว่า รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสังคมสูงวัย (Aging Society) เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน พร้อมเดินหน้านโยบาย “ฟอกไตฟรี” เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาโดยไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย
หนุนเอกชนร่วมสร้างอนาคตสุขภาพไทย
นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้ายว่า ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพและเศรษฐกิจไทย รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพโลก” ทั้งด้านบริการแพทย์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และนวัตกรรมการแพทย์สมัยใหม่
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
