BEMกระหึ่มอาเซียน ผุดหุ้นกู้ยั่งยืนจองล้น
ทันหุ้น- BEM ประสบความสำเร็จ "ออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน" 6 พันล้านบาท นับเป็นเอกชนไทยรายแรกและเป็นกลุ่มขนส่งรายแรกในอาเซียนที่ออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน ดอกเบี้ยสุดถูกเฉลี่ย 2.3% ขณะที่นักลงทุนแห่จองล้น 4.7 เท่า ท่ามกลาง WFH ดึงต้นทุนการเงินลดอีกจากเฉลี่ย 2.8% สะท้อนโดดเด่นด้านความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงความเชื่อมั่นธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่ง
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (Institutional Investors and/or High Net Worth Investors) มูลค่า 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้ 4 ชุด ได้แก่ รุ่นอายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ที่ 1.56% 2.24% 2.91% และ 3.33% ต่อปี ตามลำดับ และมีกำหนดการออกหุ้นกู้ในวันที่ 28 เมษายน 2564 นับเป็นครั้งแรกของบริษัทกลุ่มขนส่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นเอกชนไทยรายแรกที่ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน โดยบริษัทจะนำเงินจากการจำหน่ายหุ้นกู้ไปใช้ชำระคืนหนี้เดิม และ/หรือ เงินลงทุน (Refinance) ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
ทั้งนี้บริษัทได้รับการสอบทานจากภายนอกสำหรับการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน โดยผู้ชำนาญการอิสระDNV GL Business Assurance Australia Pty Ltd ตามหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้มและสังคมด้วย ขณะที่บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้ที่ระดับ “A-” แสดงถึงสถานะการเงินและธุรกิจของบริษัทที่แข็งแกร่งและมั่นคง มีธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารออมสิน เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และ ที่ปรึกษาด้านโครงสร้างหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน
@ จองล้น 4.7 เท่า
ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า ในการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น ทั้งกลุ่มบริษัทประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนาคาร และสหกรณ์ ส่งผลให้การเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทครั้งนี้ มีจำนวนมากกว่า 28,000 ล้านบาท หรือ มากกว่า 4.7 เท่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของ BEM ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และภาวะตลาดที่ผันผวน
รวมถึงสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการสนับสนุนโครงการที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยความสำเร็จในการออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้ยังตอกย้ำพันธกิจของบริษัทในการส่งมอบการบริการคมนาคมขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างมูลค่าเพิ่มและประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน และเพื่อให้บริษัทส่งมอบ “เส้นทางแห่งความสุขเพื่อวิถีการเดินทางที่ดีกว่า”
@สุดแกร่งต้นทุนลดลงอีก
ด้านนางสาวปาหนัน โตสุวรรณถาวร รองกรรมการผู้จัดการการเงิน BEM ยอมรับว่า การหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนนั้นครั้งนี้มีดอกเบี่ยเฉลี่ยราว 2.33% ซึ่งถูกว่าต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.8% ดังนั้นจะทำให้บริษัทประหยัดดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งบริษัทได้มีแนวทางในการดำเนินด้าสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอดอยู่แล้ว อาทิ การนำน้ำที่ล้างรถไฟ 90%มาใช้ใหม่ หลอดไฟ LED และกำลังพิจารณาเรื่องโซลาร์ แม้แต่กระทั่งการใช้ไฟฟ้าในการเดินรถอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ด้านสังคมได้มีการดูแลสังคมช่วงโควิด นอกจากการทำความสะอาดถี่ขึ้นแล้ว ยังได้จ้างคนตกงานมาช่วยทำความสะอาดด้วย โดยมีดีมานด์ของหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนมีมาก แต่ซัพพลายยังมีน้อย จึงได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง
ด้านนายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ และรักษาการแทนประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมจัดโรดโชว์ ในรูปแบบออนไลน์ ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างสูง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและความแข็งแกร่งของ BEM ทั้งในด้านผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน
ขณะที่ นาย วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การดำเนินงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ภายใต้สถานการณ์การทำงานที่บ้าน (WFH) มีการแสดงความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน ด้วยยอดจองซื้อมากกว่า 4.7 เท่า