สถานการณ์น้ำท่วม! ยังประสบภัย 3 จังหวัด กระทบกว่า 9,900 ครัวเรือน

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ และจังหวัดเลย รวม 70 อำเภอ 327 ตำบล 1,908 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 65,880 ครัวเรือน 206,244 คน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย จ.น่าน 4 ราย และ จ.แพร่ 1 ราย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด
ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย และจังหวัดสุโขทัย รวม 11 อำเภอ 32 ตำบล 167 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 9,914 ครัวเรือน 36,682 คน ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
“รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ติดตามสถานการณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง สั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกด้าน
โดยการนี้ กรม ปภ. ได้เน้นย้ำให้จังหวัดเร่งทำการระบายน้ำในพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมบูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ฝ่ายปกครอง ตำรวจ หน่วยงานทหาร ในพื้นที่อาสาสมัคร ตลอดจนประชาชนจิตอาสาร่วมกันทำความสะอาด ซ่อมแซม บ้านเรือนที่พักอาศัย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณะประโยชน์ เพื่อคืนและฟื้นฟูพื้นที่ให้ประชาชนให้กลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างเร็วที่สุด
พร้อมกำชับให้จังหวัดประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนที่พักอาศัยประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้ปฏิบัติตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ได้กำชับให้ทุกจังหวัดและหน่วยงานยังคงประสานงานและสื่อสารกันระหว่างส่วนกลางและระดับพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการสนับสนุนการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะจังหวัดท้ายน้ำและพื้นที่เสี่ยง หากเกิดสถานการณ์ กรม ปภ. จะทำการส่งแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ให้ประชาชนได้เตรียมการล่วงหน้าพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
ขณะที่นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนเริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีหลายพื้นที่ที่มีสถานการณ์ จึงขอย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามข้อสั่งการของ มท.2 และอธิบดี ปภ. อย่างต่อเนื่อง
ทั้งการแจ้งเตือนภัยและการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงฤดูฝน หากพื้นที่ใดมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยให้ประสานกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อดำเนินการส่งแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ให้ประชาชนเตรียมรับมือสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ในส่วนของพื้นที่ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ให้หน่วยงานเร่งสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกันซ่อมแซมและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว และสำรวจให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องด้วยความโปร่งใส
สามารถตรวจสอบได้ พร้อมกำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต เตรียมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนหากมีสถานการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- น้ำท่วม-ดินถล่ม! อัปเดตล่าสุด "ทางหลวง" ยังผ่านไม่ได้ 6 แห่ง เช็กที่นี่
- "สมาคมธนาคารไทย" เร่งออกมาตรการช่วยเหลือ ผู้รับผลกระทบเหตุปะทะ "ไทย-กัมพูชา" ผู้ประสบภัย "น้ำท่วม"
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
