กองทัพเรืออาจให้เรือจักรีนฤเบศรเป็นเรือบรรทุกโดรน หลังทดสอบสำเร็จ แต่ยังไม่ติดอาวุธในตอนนี้

เนเวิล นิวส์ (Naval News) สำนักข่าวด้านทางทหารจากฝรั่งเศสรายงานว่า กองทัพเรือไทย บรรลุขีดความสามารถปฏิบัติการขั้นต้น (Initial operating capability: IOC) ในการประจำการโดรนปีกตรึง (Fixed-wing UAV) รุ่น MARCUS-B ที่กองทัพเรือพัฒนาร่วมกับเอกชน บนเรือบรรทุกเครื่องบินจักรีนฤเบศร (HTMS Chakri Naruebet - CVH-911) ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังประสบความสำเร็จในการทดสอบเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา
รายละเอียดโดรนใหม่บนเรือจักรีนฤเบศร
MARCUS-B เป็นโดรนปีกตรึงที่มีความสามารถในการขึ้น-ลงจอดแนวดิ่ง (VTOL) พัฒนาโดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (NRDO) ร่วมกับบริษัทเอกชนไทยหลายแห่ง ได้แก่ Oceanus Research and Development, X-Treme Composites, และ BJSupply 2017
ข้อมูลทางเทคนิค MARCUS-B
มีความสามารถในการขึ้น-ลงจอดแนวดิ่ง (VTOL)
ปีกกว้าง 4.8 เมตร และยาว 2.8 เมตร
น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด (MTOW) 50 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 125 ซีซี
น้ำมันเชื้อเพลิง 1.2 ถึง 1.8 ลิตรต่อชั่วโมง
ถังน้ำมันมาตรฐาน 11 ลิตร และขนาด 20 ลิตร สำหรับภารกิจระยะไกล
ความเร็วการบิน (Cruise speed) ประมาณ 90 - 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เพดานบินสูงสุด 5 กิโลเมตร
ระยะทางบินไกลสุด 200 กิโลเมตร
รองรับเซนเซอร์ตรวจการณ์ด้วยไฟฟ้า/อินฟราเรด (electro-optical/infrared sensor) กำลังขยาย 30 เท่า
รองรับเครื่องวัดระยะด้วยเลเซอร์ (laser rangefinder) 5 กิโลเมตร
รองรับลิงก์ข้อมูลแบบ Phased Array
นำทางด้วยระบบ GPS/GNSS หรือระบบนำทางในตัว
สามารถต่อต้านการรบกวนสัญญาณ (anti-jamming)
รองรับการติดตามผ่านระบบ ADS-B ด้วยดาวเทียม
หน่วยประมวลผลคู่ (companion processor) สำหรับระบบ C4ISRNCW
ทั้งนี้ โดรน MARCUS-B ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมี NRDO เป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาร่วมกับหน่วยงานจากสาธารณรัฐเช็ก และนอร์เวย์
การใช้งานโดรนบนเรือจักรีนฤเบศร
Naval News รายงานว่า MARCUS-B เริ่มทดสอบตั้งแต่ปี 2022 ก่อนจะประสบความสำเร็จในการทดสอบเมื่อปี 2024 โดยตัวโดรนได้ส่งมอบให้กับกองทัพเรือไทยแล้ว โดยมีสถานะพร้อมใช้งานในขั้นต้น และอยู่ระหว่างรอการอนุมัติงบประมาณสำหรับการผลิตจำนวนมาก (Mass production) เพื่อนำเข้าประจำการเพิ่มเติมต่อไป
ก่อนหน้านี้ กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญากับ Thales และ Universal Communication Systems เพื่อเปลี่ยนระบบบริหารจัดการแพลตฟอร์มแบบบูรณาการ (Integrated Platform Management System) ของเรือจักรีนฤเบศร ซึ่งคาดว่าจะเป็นโครงการระยะเวลา 15 เดือน เพื่อเสริมขีดความสามารถให้ทันสมัยมากขึ้น หลังจากประจำการมากว่า 28 ปี
Naval News ยังวิเคราะห์อีกด้วยว่า กองทัพเรือกำลังดำเนินนโยบายในทิศทางสอดคล้องกับทั่วโลกที่มีแนวโน้มในการใช้ระบบไร้คนขับเพื่อปฏิบัติการบนเรือบรรทุกที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากขึ้น แม้ว่ากองทัพเรือไทยจะไม่ได้นำโดรนติดอาวุธมาใช้งานในทันทีก็ตาม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
