บินไทย หักเงินเดือนพนักงาน เข้ากองทุน ปกส. หลังยื่นศาลล้มละลาย
การบินไทย แจ้งพนักงานเตรียมหัก เงินเดือน 5% เข้าสู่กองทุนประกันสังคม เริ่ม 23 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังฐานะเปลี่ยนเป็นบริษัทเอกชน
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้แจ้งไปยังพนักงาน โดยระบุว่า ตามที่ บริษัท ได้พ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ และมีสถานะเป็นบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563
บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านแรงงานของบริษัทเอกชนหลายฉบับ รวมถึงพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 ด้วย ซึ่งกำหนดให้บริษัทฯ ต้องขึ้นทะเบียนนายจ้าง และขึ้นทะเบียนพนักงานทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ถึง 60 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้ประกันตน
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติทั้งสองฉบับมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานได้รับเงินช่วยเหลือใน 7 กรณี (ได้แก่ 1. ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 2. ทุพพลภาพ 3. ตาย 4. คลอดบุตร 5. สงเคราะห์บุตร 6. ชราภาพ และ 7. ว่างงาน) รวมทั้งเงินทดแทนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพนักงานแต่เพียงฝ่ายเดียว
ทั้งนี้ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับข้างต้น บริษัทฯ และพนักงานมีหน้าที่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนเงินทดแทน และกองทุนประกันสังคม ตามรายละเอียดดังนี้
1. บริษัทฯ แต่เพียงฝ่ายเดียว มีหน้าที่ต้องส่งเงินสมทบเข้า “กองทุนเงินทดแทน” เป็นรายปี ในอัตราร้อยละ 0.2 ของค่าจ้างรวมที่จ่ายแก่ลูกจ้างในปีนั้นๆ โดยในปี 2563 บริษัทฯ จะต้องส่งเงินสมทบครั้งแรกในวันที่ 22 มิถุนายน 2563
2. บริษัทฯ และพนักงานที่ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน มีหน้าที่ต้องส่งเงินสมทบเข้า “กองทุนประกันสังคม” เป็นรายเดือน ฝ่ายละเท่าๆ กัน ในอัตราฝ่ายละ ร้อยละ 5 ของเงินเดือนที่พนักงานแต่ละคนได้รับในแต่ละเดือน โดยกำหนดฐานเงินเดือนที่ใช้คำนวณเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 1,650 บาท แต่ไม่เกิน 15,000 บาท
กล่าวคือ พนักงานแต่ละคน มีหน้าที่ส่งเงินสมทบฝ่ายพนักงาน (ซึ่งกฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ ต้องหักจากค่าจ้างของพนักงานในแต่ละเดือน ในจำนวนไม่เกินเดือนละ 750 บาท) และบริษัทฯ ก็มีหน้าที่ส่งเงินสมทบฝ่ายบริษัทฯ ในจำนวนที่เท่ากันด้วย ซึ่งพนักงานและบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องส่งเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินการต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของที่พนักงานพึงได้รับตามขอบเขตของกฎหมาย ดังนั้น บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พนักงานทุกคนจะพิจารณาการดำเนินการต่างๆ ของบริษัทฯ อย่างถี่ถ้วน รวมทั้งใช้สิทธิโดยสุจริตและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือความแตกแยกในบริษัทฯ ด้วย