รีเซต

โดนแล้วแม่ค้าจุ๊เนื้อ เข้าคนละครึ่ง บวกเงินค่าเน็ตลูกค้าเพิ่ม ถูกปรับ-ถอนจากโครงการ

โดนแล้วแม่ค้าจุ๊เนื้อ เข้าคนละครึ่ง บวกเงินค่าเน็ตลูกค้าเพิ่ม ถูกปรับ-ถอนจากโครงการ
ข่าวสด
1 ธันวาคม 2563 ( 15:31 )
140
โดนแล้วแม่ค้าจุ๊เนื้อ เข้าคนละครึ่ง บวกเงินค่าเน็ตลูกค้าเพิ่ม ถูกปรับ-ถอนจากโครงการ

พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี สั่งฟันแม่ค้าจุ๊เนื้อ คิดค่าเน็ตลูกค่าเพิ่ม ปรับเงิน 1,000 บาท ถอนชื่อออกจากโครงการคนละครึ่ง เจ้าตัวเครียด ถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืน

 

จากกรณีนักศึกษาสาว ม.ราชภัฎอุบลราชธานี ถูกแม่ค้าขายจุ๊เนื้อ ซอยถนนคนเดินหน้าโรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี เทศบาลนครอุบลราชธานี เมนูละ 100 บาท แต่ถ้าจ่ายโครงการคนละครึ่ง ก็ต้องช่วยจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตด้วย 10 บาท ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

 

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค.63 ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และ น.ส.ปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัด นำตัว นางเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี แม่ค้าขายจุ๊เนื้อคนดังกล่าว มาให้ พ.ต.ท.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง สารวัตร (สอบสวน) ทำการเปรียบเทียบปรับ

 

ฐานฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 71 พ.ศ.2563 ลงวันที่ 1 ก.ค.2563 ข้อ 9 กรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งผู้จำหน่าย จะต้องแสดงค่าใช้จ่ายให้ชัดเจนและครบถ้วน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งมีอัตราโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท

 

แต่กรณีของ นางเอ เป็นหาบเร่แผงลอย จึงเสนอปรับเพียง 1,000 บาท ซึ่ง นางเอ ก็ยินยอม พร้อมได้กล่าวขอโทษต่อกรณีที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะหลังเกิดเรื่องทำให้ นางเอ เกิดความเครียดและนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน

 

นายชาญยุทธ ยังกล่าวเตือนไปถึงร้านค้า แม้ไม่ได้เข้าร่วมโครงการใดๆ กับทางรัฐ อย่างไรก็ต้องติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน และต้องขายให้ตรงกับราคาตามป้ายที่แสดงไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาก็ต้องมีการแจ้งชัดเจน และสินค้าต้องมีน้ำหนักหรือจำนวนที่มีการระบุไว้ หากไม่ครบถ้วนก็มีความผิดเช่นกัน

 

ขณะที่ น.ส.ปานจิตต์ ตะเพียนทอง คลังจังหวัด กล่าวถึงการเสนอถอดรายชื่อ นางเอ ออกจากการร่วมโครงการจ่ายคนละครึ่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ยินยอมออกจากโครงการ และจะได้ส่งเรื่องให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพิกถอนสิทธิออกจากโครงการนี้

 

พร้อมเตือนพ่อค้าแม่ค้ารายอื่น ซึ่งมีข่าวออกมาไม่ได้ขายสินค้า แต่ให้มาแลกเป็นเงินสดอย่าได้ทำ เพราะโครงการนี้รัฐบาลต้องการช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพประชาชน ช่วยเหลือผู้ค้าระดับเล็กๆ ให้มีรายได้ และขายของได้มากๆ ส่วนที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มร้านค้าก็ควรต้องรับผิดชอบเองอย่าได้ทำผิดเป็นอันขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง