'เขื่อนเชี่ยวหลาน' คึกคัก นทท.เพิ่มจากเดือนก่อน 246% ยอดต่างชาติก็พุ่ง สถานการณ์ดีสุดในรอบ 5 ปี
นทท.แห่เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน มากกว่าเดือนที่แล้ว 246 เปอร์เซ็นต์ ต่างชาติเพิ่มเกือบ 450 เปอร์เซ็นต์ ยุโรปมากสุด ท่องเที่ยวเฮดีขึ้นในรอบ 5 ปี
เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายวีรยุทธ ขนุนนิล นายอำเภอบ้านตาขุน สรุปจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อ.บ้านตาขุน ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564 จำนวน 16,582 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว จำนวน 9,845 คน หรือ 246.13 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 12,774 คน เพิ่มขึ้น 6,889 คน หรือ 217.06 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดมาจากภาคกลาง 7,395 คน เพิ่มขึ้น 4,041 คน คิดเป็น 220.48 เปอร์เซ็นต์ ภาคใต้ 2,460 คน และจากทุกภาคของไทย เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก ที่นิตยสาร Vogue ฝรั่งเศส ประกาศให้เป็น 1 ใน 8 อุทยานแห่งชาติที่สวยที่สุดของโลก
นายวิชวุทย์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา 3,808 คน เพิ่มขึ้น 2,976 คน หรือ 446.94 เปอร์เซ็นต์มากที่สุดเป็นนักท่องเที่ยวยุโรป จำนวน 2,914 คน รองมาเป็นนักท่องเที่ยวจากเอเชีย 453 คน อเมริกาเหนือ 296 คน และจากออสเตรเลีย อเมริกาใต้ ใช้รูปแบบการท่องเที่ยวพักค้างคืนบนแพที่พักรีสอร์ต (overnight) 9,707 คน ไป-กลับ (one day trip) 6,875 คน ใช้เรือโดยสาร 1,642 ลำ นักท่องเที่ยวได้แสดงการฉีดวัคซีนและมีหนังสือรับรองการตรวจหาเชื้อแล้ว ซึ่งประมาณการรายได้เฉลี่ย (คิดอัตราหัวละ 2,000 บาท) จำนวน 33,164,000 บาท โดยผู้ประกอบการท่องเที่ยวระบุว่าถือเป็นสถานการณ์ท่องเที่ยวดีที่สุดในรอบ 5 ปี
ด้าน น.ส.นันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ปัจจัยเชิงบวกที่เข้ามาสนับสนุนให้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสสามารถแสดงหลักฐานการรับวัคซีนเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการทัวร์เที่ยวไทยมีส่วนช่วยกระตุ้นให้วันหยุด มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้สิทธิ