ทรัมป์กดดันเฟด ลดดอกเบี้ยร้อยละ 2-3

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความลงบน Truth Social แสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินนโยบายของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐควรลดลง “อย่างน้อย 2-3 จุดเปอร์เซ็นต์” เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยในงบประมาณรัฐบาล ซึ่งทรัมป์เชื่อว่าจะประหยัดงบประมาณได้สูงถึง 800,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรืออาจมากกว่านั้น

เขายังกล่าวหาว่าเจอโรม พาวเวลล์ล้มเหลวในการบริหารนโยบายการเงิน และเรียกร้องให้สภาคองเกรสดำเนินการจัดการกับธนาคารกลางอย่างจริงจัง พร้อมเปรียบเทียบนโยบายของเฟดกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งลดดอกเบี้ยไปแล้วถึง 10 ครั้ง ขณะที่เฟดยังไม่ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเลยในปีนี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากหลายฝ่าย

ความเห็นดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่นายพาวเวลล์จะขึ้นให้การต่อหน้าสภาคองเกรส โดยแสดงจุดยืนว่า เฟดจะยัง “ระมัดระวัง” ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2025 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่แสดงสัญญาณที่ชัดเจนพอว่าควรผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า หากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นจากมาตรการภาษีของทรัมป์ เฟดก็พร้อมจะพิจารณาทางเลือกในการลดดอกเบี้ยได้ในอนาคต

ปัจจุบันเฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยรวมแล้ว 1% ตลอดปี 2024 ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงมาที่ระดับ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 97.4 จุด ตามดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ส่งผลให้ตลาดยังมีความหวังว่าเฟดอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปหากเงื่อนไขเอื้ออำนวย