"คนละครึ่งพลัส"ดันศก.โตเกินร้อยละ 1

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) 2 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ในสัปดาห์หน้า และ 2.โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ในวันที่ 14 ต.ค.2568 ซึ่งเป็นโครงการที่เคยดำเนินการแล้วปี 2561 มีผู้เข้าร่วมกว่า 120,000 ราย
สำหรับโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ที่รัฐบาลจะสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไป และอุดหนุนงบในบัตรสวัสดิการ คาดว่าโครงการนี้จะใช้เม็ดเงินรวมกันกว่า 44,000 ล้านบาท โดยงบประมาณจะมาจาก 2 ส่วนคือ งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 68 จำนวน 25,000 ล้านบาท และงบกลางปี 69 จำนวน 19,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าโครงการคนละครึ่งพลัสนี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปี 68 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2-0.4 จากปัจจุบันคาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ดังนั้นจึงส่งผลให้ไตรมาส 4 ปี 68 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเกินร้อยละ 1 เพราะเป็นโครงการที่ช่วยกระจายเม็ดเงินไปยังต่างจังหวัด และลงสู่ฐานรากได้ตรงจุด
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดการเปิดลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" มีดังนี้
1.ประชาชนที่เคยลงทะเบียนแล้วและยังไม่เคยลงทะเบียนโครงการ "คนละครึ่ง" ลงทะเบียนวันที่ 20-26 ต.ค.2568 โดยสามารถกดรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จำกัดจำนวน 20 ล้านคน
2.ร้านค้าทั่วไป ลงทะเบียนวันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไปจนกว่าจะจบโครงการ ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เช่นเดียวกัน
พร้อมย้ำว่าระบบสามารถรองรับการใช้งานระหว่างวันได้
โดยโครงการนี้จะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.2568 เป็นต้นไปจนถึงเดือนธันวาคม 2568 ระยะเวลา 2 เดือน
ทั้งนี้โครงการ "คนละครึ่งพลัส" คาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่าในช่วงที่เคยเปิดดำเนินโครงการซึ่งขณะนั้นมีร้านค้าเข้าร่วม 1 ล้านร้านค้า นอกจากนี้ โครงการในครั้งนี้จะมีการปรับเพิ่มให้ นิติบุคลลรายย่อย หรือ ไมโครเอสเอ็มอี เข้าร่วมโครงการได้ด้วย
สำหรับเกณฑ์ของ นิติบุคคล หรือ ไมโครเอสเอ็มอี ที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้นั้น จะต้องอยู่ในระบบภาษีและมีตัวเลขรายได้ที่กรรมสรรพากร แบ่งเป็น นิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท มีจำนวน 3,000 ราย และนิติบุคคลที่มีรายได้ 1.8 ไม่เกิน 30 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 2,000 ราย กว่านั้น รวมเป็น 5,000 ราย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
