จี้ ผวจ. ประจวบฯ ป้ายแดง สางคดีลูกจ้างโกงงบ 40 ล้าน รื้อโครงการร้างโยธา สร้างแล้วทิ้ง
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่นาน 4 ปี ต่อมาเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน ปรากฏว่าโครงการก่อสร้างจำนวนมากที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์คุ้มค่า บางแห่งถูกปล่อยทิ้งร้างนานกว่า 10 ปี ยังไม่มีคำสั่งลงโทษข้าราชการรายใด ปัจจุบันการปรับปรุงยังไม่มีความคืบหน้า
ล่าสุดได้ร้องเรียนสื่อมวลชน พร้อมยื่นเอกสารผ่านศูนย์ดำรงธรรม สอบถามนายนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่มารับตำแหน่ง ซึ่งอดีตเป็นวิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยขอทราบหลักการในการใช้อำนาจหน้าที่แก้ไขปัญหาโครงการร้าง ขอให้ชี้แจงความคืบหน้าคดีอดีตพนักงานราชการ สำนักงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โกงงบ 40 ล้านบาท เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยยังไม่แจ้งผลสรุปการสอบสวนข้าราชการระดับสูงหลายรายเพื่อลงโทษทางวินัยร้ายแรง
จ่าเอก เสกสรรค์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่และรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ บางรายเคยเป็นลูกหม้อของกรมโยธาธิการฯ ดังนั้นควรออกมาชี้แจงปัญหาอุปสรรคการทำโครงการร้างจากงบพัฒนาจังหวัด งบกรมโยธาธิการและผังเมือง ใช้งบมากกว่า 300 ล้านบาทในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังจากทำโครงการแต่ไม่ได้มอบให้เทศบาล รวมทั้งโครงการร้างจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เขาช่องกระจก ใช้งบ 30 ล้าน หน้าศาลากลางจังหวัด ต่อมาเมื่อ 4 ปีก่อนใช้งบเพิ่มอีก 16.9 ล้านบาท ทำเสาไฟฟ้าไฮแมช เสาโคมไฟสับปะรด อาคารขายอาหารลิง อาคารขายสินค้าโอทอปหรูข้างศาลากลางแต่ถูกปล่อยทิ้งร้าง มีการใช้งบ 9.6 ล้านบาทสร้างไบค์เลนเลียบอ่าวประจวบฯ ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร แต่ไม่ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
“การสร้างเขื่อนกันคลื่นที่หมู่ 2 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง กรมโยธาธิการฯใช้งบ 67 ล้านบาท สร้างเขื่อนริมหาด ต่อมาศาลปกครองจังหวัดเพชรบุรีสั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว ขณะที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งระบุในการรับฟังความเห็นยืนยันว่าจุดดังกล่าวไม่เคยมีปัญหาการกัดเซาะ ส่วนการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นในเขตของกรมเจ้าท่าในพื้นที่เทศบาลเมืองประจวบฯ ใช้งบจากกรมโยธาฯมากกว่า 200 ล้านบาท บางจุดได้รับความเสียหายนานหลายปี ปัจจุบันยังไม่มีงบซ่อม” จ่าเอก เสกสรรค์กล่าว
จ่าเอก เสกสรรค์ กล่าวอีกว่า ขอให้ติดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย ตลาดร้างเชิงเขาทุ่งกระต่ายขังหรือตลาดสมพร ริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง ก่อสร้างตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 จากนั้นมีการปรับสภาพพื้นที่อีกครั้งในจุดเดิม ใช้งบรวม 30 ล้านบาท ปรับปรุงตลาดเป็นจุดพักรถ มีการก่อสร้างร้านจำหน่ายสินค้าการเกษตร ร้านขายสินค้าโอท็อป ตั้งแต่ต้นปี 2561
แต่ปัจจุบันกลายเป็นตลาดร้าง เป็นการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนไม่คุ้มค่า เช่นเดียวกับการใช้งบ 24.4 ล้าน ของกรมพลศึกษา สร้างนามกีฬาร้างที่ ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก สร้างเสร็จและรับมอบจากผู้รับเหมาเมื่อเดือนมกราคม 2561 แต่ปัจจุบันสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด มีปัญหาจากการส่งมอบโครงการสนามกีฬา เนื่องจากสภา อบต.แสงอรุณ ไม่มีมติรับสนามกีฬา และไม่มีหน่วยงานอื่นในพื้นที่รับผิดชอบ