กมธ.ความมั่นคงรัฐฯ แนะ ธปท.หาวิธีระงับการโอนเงิน หากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก

ข่าววันนี้ เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่รัฐสภา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ฯ ได้พิจารณาเรื่องปัญหาการหลอกลวงทางโทรศัพท์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) เพื่อรับทราบสภาพปัญหาใน 4 ประเด็น คือ
1.วิธีการเกี่ยวกับการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2.แนวทางแก้ปัญหาของหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน และ 3.ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ด้านนโยบาย กฎหมาย และระเบียบ เพื่อการป้องกัน และแก้ไขปัญหาในอนาคต ทั้งนี้ สถิติการรับแจ้งเหตุตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563–ปัจจุบัน มีคดีคอลเซ็นเตอร์ ประมาณ 5 พันคดี มูลค่าความเสียหาย 1 พันล้านบาท ส่วนธปท. ชี้แจงว่า กรณีการแอบอ้างธปท. ธนาคารไทย และผู้ให้บริการทางการเงินที่มิใช่ธนาคาร จากข้อมูลทางสถิติช่วงเดือนกันยายน 2563 – กันยายน 2564 มีผู้ร้องเรียน 1,900 ราย พบว่าประชาชนถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์มากที่สุด และปัจจุบันมีการหลอกลวงทางโทรศัพท์เพิ่มขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะรองประธานกมธ. กล่าวว่า รูปแบบการก่ออาชญากรรมเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ไม่ได้ก่อเหตุในประเทศไทย แต่มีการดำเนินการในต่างประเทศ ซึ่งกมธ.เห็นว่า หน่วยงานสำคัญที่ช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว คือ ธปท. และธนาคารที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องร่วมกันหาแนวทาง ว่าจะทำอย่างไรที่จะระงับหรือชะลอการโอนเงินได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับแจ้งจากประชาชนว่าถูกหลอกโดยไม่ต้องรอกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันมีความล่าช้าไม่ทันการณ์ ส่วนการแก้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหา หากติดขัดอย่างไรให้นำเสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมายมายัง กมธ.ฯ เพื่อจะร่วมผลักดันการแก้ปัญหาไปยังรัฐบาล จะได้ช่วยระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อประชาชน และป้องกันปัญหาในอนาคต
Tag
บทความน่าสนใจอื่นๆ
