รีเซต

ผลทดลองพบ 'วัคซีนโควิด-19 ฉีดพ่นจมูก' ฝีมือจีน ปลอดภัย-มีประสิทธิภาพ

ผลทดลองพบ 'วัคซีนโควิด-19 ฉีดพ่นจมูก' ฝีมือจีน ปลอดภัย-มีประสิทธิภาพ
Xinhua
2 มิถุนายน 2565 ( 10:30 )
73

ปักกิ่ง, 1 มิ.ย. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาใหม่จากวารสารการแพทย์แลนเซต เรสพิราทอรี เมดิซิน (Lancet Respiratory Medicine) ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบฉีดพ่นจมูกที่จีนพัฒนา มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทดลองในมนุษย์ระยะแรก

 

เมื่อเทียบกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อในปัจจุบัน วัคซีนตัวใหม่ "ดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี" (dNS1-RBD) เป็นวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นที่อ่อนกำลังลง แบบฉีดพ่นจมูก 2 โดส ซึ่งถูกร่วมพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน มหาวิทยาลัยฮ่องกง และบริษัท ปักกิ่ง ว่านไท่ ไบโอโลจิคัล ฟาร์มาซี เอ็นเทอร์ไพรส์ (Beijing Wantai Biological Pharmacy Enterprise)คณะนักวิจัยดำเนินการทดลองระยะ 1 และระยะ 2 ที่หลายโรงพยาบาลในมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 จนถึงกรกฎาคม 2021 โดยมีอาสาสมัครผู้ใหญ่สุขภาพดี อายุ 18-86 ปี มากกว่า 1,000 คน เข้าร่วมการทดลอง ซึ่งจัดทำขึ้นแบบสุ่มตัวอย่าง ปกปิดข้อมูลสองทาง และควบคุมด้วยยาหลอกการศึกษาพบกลุ่มผู้รับวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี ร้อยละ 40 มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโดสสองครบ 1 เดือน ซึ่งสูงกว่าในกลุ่มยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญนอกจากนั้นผู้รับวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี ทุกคนสามารถทนผลข้างเคียงได้ดี และพบประสิทธิภาพการป้องกันในกลุ่มคนอายุมากกว่า (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ระดับเดียวกับกลุ่มคนอายุน้อยกว่า (อายุ 18-59 ปี)ด้านอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนส่วนใหญ่ มีความคล้ายคลึงอาการไข้หวัดใหญ่ที่ไม่รุนแรงหรือปานกลาง เช่น น้ำมูกไหล มีไข้ และเมื่อยล้า ทว่าไม่มีรายงานพบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รุนแรงแต่อย่างใดการศึกษาเผยว่าขณะนี้วัคซีนดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดลองระยะ 3 ที่มีอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวนมากขึ้นในฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ เวียดนาม และโคลอมเบีย เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนสัญชาติจีนตัวนี้ดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี เป็นวัคซีนที่ได้จากการสร้างไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่อ่อนกำลังลง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ในอุณหภูมิต่ำ (cold-adapted influenza strain) โดยจะเข้าไปแทรกแซงยีนตำแหน่งตัวรับ-ยึดเกาะของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนยีนทั้งนี้ การทดลองก่อนการทดสอบในมนุษย์เผยว่าวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี มอบการป้องกันที่รวดเร็ว ยาวนาน และครอบคลุมต่อเชื้อไวรัสฯ ในหนูทดลอง โดยคณะผู้ผลิตวัคซีนยังระบุว่าผลการป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เบตา ยังคงได้ผลดีเท่ากับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ดั้งเดิม หลังจากฉีดวัคซีนตัวนี้สองโดสครบ 9 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง