ผอ.โรงเรียน ล้อมคอก หลังเกิดเหตุเด็ก ม.3 กระโดดตึก โคราชสลด นับเป็นรายที่ 4 ของปี

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่เด็กนักเรียนชาย อายุ 14 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตกลงมาจากอาคารเรียนภายในโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงค่ำวันที่ 10 พ.ย. โดยวันนี้ (11 พ.ย.) โรงเรียนประกาศปิดเรียน 1 วัน เพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อเหตุดังกล่าว

ต่อมา เจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐานที่อาจปรากฏรอยนิ้วมือแฝงบริเวณช่วงรอยต่อทางขึ้นบันได้จากชั้น 5-6 จากนั้น นายสวาท ฦาชา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา (ผอ.สพม.นม.) เดินทางมาตรวจเยี่ยม พร้อมสอบถามข้อมูลกับผู้อำนวยการโรงเรียน ได้รับการเปิดเผยว่า พ่อของนักเรียนที่เสียชีวิตเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ แม่ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว นักเรียนอาศัยอยู่กับพ่อในบ้านพักเขต ต.หัวทะเล อ.เมือง ส่วนการศึกษาจบ ป.6 จากโรงเรียนเอกชนชื่อดังและเรียนอยู่ในห้องพิเศษโปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ ผลการเรียนค่อนข้างดี เป็นเด็กสนุกสนาน ร่าเริง

ผอ.โรงเรียนกล่าวว่า ได้รับแจ้งช่วงเวลา 18.40 น. โดยผู้ปกครองประสานครูที่ปรึกษา เนื่องจากผู้เสียชีวิตไม่กลับบ้านตามกำหนดเวลา ครูที่ปรึกษาและบุคลากรพากันเดินตามหาทันที ขณะนั้นได้รับแจ้งเพิ่มเติมพบกระเป๋านักเรียนวางอยู่บริเวณช่วงรอยต่อบันไดระหว่างชั้น 5-6 บนอาคารเรียน 4 และร้องขอให้นักเรียนช่วยกันออกตามหา พบโทรศัพท์มือถือตกอยู่พื้นด้านล่าง จึงใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องดูรอบบริเวณจนพบร่างผู้เสียชีวิตนอนหงายแน่นิ่งและไม่มีชีพจร จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเหตุร้าย

ผอ.โรงเรียนกล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุต้องรอผลสรุปจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ล่าสุดโรงเรียนได้พูดคุยกับพ่อแม่และญาติเพียงเบื้องต้นเท่านั้น ทราบว่าผู้เสียชีวิตพักอยู่กับพ่อ ส่วนแม่อยู่กับญาติที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ต้องรอเสร็จงานศพจะได้นัดมาสอบถามอีกครั้ง

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จำนวน 60 ตัว รอบพื้นที่สถานศึกษาปรากฏช่วงเวลาประมาณ 16.48 น. พบผู้เสียชีวิตมีท่าทางเสียใจ เดินจากโรงอาหารเพียงลำพัง และเดินมาที่อาคารเรียน 4 ส่วนการดูแลช่วยเหลือได้จัดครูเป็น 2 ชุด รับผิดชอบการติดต่อขอรับศพและเคลื่อนย้ายร่างนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีในพื้นที่ ต.มาบตะโกเอน อ.ครบุรี และลงพื้นที่ดูแลให้กำลังใจญาติ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ได้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยภายในโรงเรียน โดยเพิ่มกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยง จัดครูเวรตรวจสอบป้องปรามมิให้นักเรียนอยู่บนอาคารหลังเวลา 17.00 น. พร้อมจัดสรรพื้นที่ให้นักเรียนนั่งรอผู้ปกครอง หรือทำกิจกรรมภายในโดม หรือโรงอาหาร ซึ่งมีพื้นที่เพียงพอและสะดวกสบายมากกว่าบนอาคารเรียน รวมทั้งสามารถดูแลได้ทั่วถึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นนักเรียนและนักศึกษาที่กระโดดตึกเสียชีวิตรายที่ 4 ในเขต อ.เมือง ของรอบปี 2565 รายแรกเป็นนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 รายที่ 2 นักศึกษาแพทย์ชั้นปี 5 รายที่ 3 นักเรียนชาย ชั้น ม.6 และรายที่ 4 คือนักเรียนชั้น ม.3 ในครั้งนี้