ศปช. สั่งเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์แผ่นดินถล่มภาคใต้ ช่วง 17-18 ต.ค. ใกล้ชิด
วันนี้ (17 ตุลาคม 2567) เวลา 11.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยถึงสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วมในภาพรวม คาดว่าสัปดาห์หน้าสถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจากรายงานความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัย ปี 2567 (17 ต.ค. 67) พบว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด จำนวน 58 จังหวัด โดยมี 48 จังหวัดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร เลย บึงกาฬ สกลนคร หนองบัวลำภู นครพนม ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ตราด นครนายก ระยอง ฉะเชิงเทรา สระบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ชัยนาท อุทัยธานี กาณจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง นครศรีธรรมราช กระบี่ สตูล ตรัง ภูเก็ต และยะลา
ส่วนอีก 10 จังหวัดที่ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ คือ นครปฐม สพรรณบุรี สิงห์บุรี ยโสธร ลำพูน กาฬสินธุ์ มหาสารคาม หนองคาย อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา สรุปพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด จำนวน 99,693 ไร่/36,161 ครัวเรือน
นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่ต้องติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหล ช่วงระหว่างวันที่ 17 - 18 ตุลาคม ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช อ.สิชล อ.ลานสกา อ.พิปูน อ.นบพิตำ, จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.เคียนซา ส่วนพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดยะยา นราธิวาส ปัตตานี โดยพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกสะสมติดต่อกันหลายวัน อาจทำให้เกิดพื้นที่ที่อุ้มน้ำมากผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดดินโคลนถล่มได้ ทางศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัยจะทำการติดตามสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยเป็นพิเศษและจะทำการแจ้งอาสาสมัครเครือข่ายในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไป
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดินสไลด์บริเวณพื้นที่ จังหวัดยะลา อ.เบตง ท.ร 4244 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงได้ดำเนินการลงพื้นที่ปิดเส้นทางดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แล้ว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และเคลียร์เส้นทางในพื้นที่แล้วโดยเร็ว
ภาพจาก AFP