รีเซต

ทหารรัสเซียเหิม บุกบ้านพักชาวยูเครนยึดมือถือ-จับขังห้องใต้ดิน

ทหารรัสเซียเหิม บุกบ้านพักชาวยูเครนยึดมือถือ-จับขังห้องใต้ดิน
มติชน
21 มีนาคม 2565 ( 15:49 )
132
ทหารรัสเซียเหิม บุกบ้านพักชาวยูเครนยึดมือถือ-จับขังห้องใต้ดิน

นิวยอร์กไทม์ รายงานอ้างชาวยูเครนที่หนีออกจากจากสมรภูมิรบบริเวณชานกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ระบุว่า ทหารรัสเซียบุกย่านอพาร์ตเมนต์พักอาศัย และจับชาวยูเครนจำนวนมากขังไว้ในห้องใต้ดินโดยมีการยึดมือถือและข่มขู่ว่าจะฆ่าใครก็ตามที่พบว่ามีเครื่องมือสือสารอยู่กับตัว

 

นิวยอร์กไทม์สัมภาษณ์ประชาชนที่อยู่ในอาคารชุดพักอาศัยโปครอฟสกี ในเมืองฮอสโตเมล ห่างจากกรุงเคียฟไปทางเหนือราว 16 กิโลเมตร โดยระบุว่า ทหารรัสเซียบุกเข้ามาในอาคารพักอาศัยทำให้ชาวยูเครนราว 200 คนต้องติดอยู่ภายใน โดยทหารรัสเซียควบคุมตัวประชาชนเหล่านี้ไว้เป็นตัวประกันโดยขังเอาไว้ที่ชั้นใต้ดิน ยึดโทรศัพท์มือถือ ขณะที่บางส่วนแอบซ่อนโทรศัพท์มือถือเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องอาศัยอยู่ราวกับเป็นนักโทษท่ามกลางทหารรัสเซียที่บุกเข้าสู่อพาร์ตเมนต์อีกหลังที่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 500 ครัวเรือน

 

 

นิวยอร์กไทม์เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นทหารรัสเซียลำเลียงปืนกลเข้าสู่ตัวอาคารและใช้ปืนจ่อบังคับให้ชายคนหนึ่งเข้าไปในตัวอาคาร ใช้ปืนทุบกระจกประตูและบุกเข้าไปภายในอาคารพักอาศัย โดยแหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่าทหารรัสเซีย ขู่ว่าจะยิงให้ตายหากพบว่าพกโทรศัพท์เอาไว้กับตัว

 

 

การถูกยึดโทรศัพท์หรือการต้องแอบซ่อนและใช้สื่อสารในแต่ละวันส่งผลให้การติดต่อสื่อสารกับครองครัวทำได้ยากและสร้างความกังวลกับครอบครัวที่อยู่ภายนอกที่ไม่รู้ชะตากรรมของสมาชิกครอบครัวที่อยู่ในมือของทหารรัสเซีย

 

 

ชาวยูเครนที่ถูกควบคุมตัวโดยทหารระบุว่า ทหารรัสเซีย อนุญาตให้ออกไปเอาอาหารและเสื้อผ้าในห้องของตัวเองเพื่อให้สามารถอยู่ในห้องใต้ดินอันหนาวเหน็บได้ ขณะที่บางคนทหารรัสเซียต้องเดินคุมไปตลอดทางที่ไปหยิบอาหารหรือเสื้อผ้า

 

ขณะที่บางคนต้องอาศัยอยู่ในห้องที่กระจกแตกและไร้ไฟฟ้าใช้ อาศัยความร้อนจากเทียนไขอุ่นอาหารกระป๋องท่ามกลางอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศา

 

 

ผู้ประสบเหตุบางคนเล่าถึงบทสนทนาของทหารยูเครนกับเด็กหญิงรายหนึ่งด้วย โดยระบุว่า ตนมีลูกสาววัย 8 ขวบเหมือนกันและตนก็รักลูกสาวมากๆ ตนคิดถึงลูกสาวมาก ไม่ต้องกลัว พวกเราจะปลดปล่อยชาวยูเครนจากนาซี ขณะที่นายทหารหนุ่มชาวรัสเซียบางรายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนมาทำอะไรในยูเครน

 

ทั้งนี้ผู้ที่รอดชีวิตออกมาได้ระบุว่าตนอพยพออกมาได้เพราะเห็นขบวนผู้อพยพพร้อมธงสีขาวโดยบังเอิญ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม โดยตนตะโกนถามทหารรัสเซีย จึงได้รู้ว่ามีการทำข้อตกลงเปิดทางอพยพจึงตัดสินใจเก็บของและหนีออกมาจากพื้นที่ได้ในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง