รีเซต

ปิดคดี 'หมอนิ่ม' จ้างวานฆ่า 'เอ็กซ์ จักรกฤษณ์' เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ทำทุกคนตกเป็น 'เหยื่อ''

ปิดคดี 'หมอนิ่ม' จ้างวานฆ่า 'เอ็กซ์ จักรกฤษณ์' เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ทำทุกคนตกเป็น 'เหยื่อ''
TeaC
8 ตุลาคม 2564 ( 11:36 )
1.3K
ปิดคดี 'หมอนิ่ม' จ้างวานฆ่า 'เอ็กซ์ จักรกฤษณ์' เมื่อความรุนแรงในครอบครัว ทำทุกคนตกเป็น 'เหยื่อ''

อีกหนึ่งคดีดังเมื่อ ปี 2556 นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ เอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ภายในรถยนต์ปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ชส 2223 กทม. ขณะขับรถยนต์ ผ่านหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 ย่านมีนบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ถือเป็นคดีโด่งดังที่ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงเวลานั้น ล่าสุด 8 ตุลาคม 2564 ศาลฎีกา มีพิพากษา ยกฟ้อง “หมอนิ่ม” อดีตภรรยา ในคดีจ้างวานฆ่า ส่วน “แม่หมอนิ่ม” ผู้จ้างวาน รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

 

โดยรายละเอียดคดีดังกล่าว เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้โพสต์ว่า ในคดีจ้างวานฆ่า “เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พาณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย 

 

ศาลฎีกา มีพิพากษา ยกฟ้อง “หมอนิ่ม” ในคดีจ้างวานฆ่า “เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พาณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย 


ส่วน “แม่หมอนิ่ม” ผู้จ้างวาน ศาลฎีกา เห็นว่ากระทำผิดเพราะลูกสาวถูกทำร้าย ต้องตกอยู่ในความทุกข์สาหัส มีเหตุบรรเทาโทษ จากจำคุกตลอดชีวิต ลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี ร่วมชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี 


มือปืน-คนขี่ จยย.พิพากษา จำคุกตลอดชีวิต 


"ทนายอี๊ด" ตัวกลางรับงานจ้างวานฆ่า พิพากษายืนให้ประหารชีวิต


*ลำดับคดีนี้*


“คำฟ้องของอัยการ” ระหว่างเดือน ส.ค.56 - วันที่ 19 ต.ค.56  แม่หมอนิ่ม , หมอนิ่ม , ทนายอี้ด ได้ “ร่วมกัน” จ้างวานใช้ให้ฆ่า “เอ็กซ์” จักรกฤษณ์

“ศาลชั้นต้น” มีคำพิพากษา ประหารชีวิต “หมอนิ่ม” และยกฟ้อง “แม่หมอนิ่ม”

“ศาลอุทธรณ์” มีคำพิพากษากลับ ยกฟ้อง “หมอนิ่ม” แล้ว จำคุกตลอดชีวิต “แม่หมอนิ่ม”

“ศาลฎีกา” ยืนพิพากษาความผิดตามศาลอุทธรณ์ คือ ยกฟ้อง “หมอนิ่ม” แต่แก้โทษ “แม่หมอนิ่ม” จาก จำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 25 ปี


ส่วนจำเลยอื่น มีคำพิพากษาตรงกันทั้ง 3 ชั้นศาล

จำคุกตลอดชีวิต มือปืน กับ คนขี่จยย.

ประหารชีวิต “ทนายอี้ด” ตัวกลางรับงานจ้างวานฆ่า

 

TrueID จะพาย้อนคดีดังและทำไม? ครอบครัวไทยสุมไฟด้วย "ความรุนแรง" ที่ยังคงมีให้เห็นไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย

 

ประวัติ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย

 

เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ในฐานะนักกีแม่นปืนทีมชาติไทย เขามีความโดดเด่นในแวดวงการกีฬาอย่างมาก เพราะสามารถคว้า 20 เหรียญทองซีเกมส์ และเขายังเคยได้เหรียญซีเกมส์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ รวมทั้งได้อันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์ในปี 1998 แต่ผลงานที่ทำให้ชื่อของเอ็ก จักรกฤษณ์ มีชื่อเสียงมากขึ้นและได้รับความสนใจ ได้รับการยอมรับถึงฝีมือ คือการเป็นนักยิงปืนไทยคนแรกที่ได้อันดับ 8 โอลิมปิก 2008 ที่ประเทศจีน และยังได้อันดับ 8 การแข่งขันยิงปืนชิงแชมป์โลกที่ประเทศเยอรมนีอีกด้วย

 

และนี่คือเส้นทางแวดวงกีฬาของ "เอ็กซ์" ที่เขาใช้ความมุ่งมั่น ตั้งใจฝึกหัดการยิงปืนตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยตามรอยคุณพ่อที่เป็นอดีตนักแม่นปืนทีมชาติไทย และในวัย 18 ปี เอ็ก ถือเป็นดาวรุ่งในวงการนักแม่นปืนทีมชาติไทย ประเภทปืนสั้นอัดลมยิงช้า และเขาเชี่ยวชาญปืนหลายชนิด เอ็กถือเป็นหนุ่มใหญ่ที่สร้างผลงานการรับใช้ชาติได้อย่างยอดเยี่ยม

 

นอกจากชื่อเสียงในแวดวงกีฬาเกี่ยวกับผลงานที่โดดเด่น เอ็กซ์ยังมีชื่อเสียงในด้านอารมณ์ร้อน เคยตกเป็นข่าวดังระหว่างสมาคมยิงปืน สื่มวลจน แต่กรณีที่โด่งดังมากที่สุด ถึงระดับข้ามประเทศ เมื่อนายจักกฤษณืถูกส่งตัวกลับไทย หลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทอย่างหนักกับผู้จัดการทีมในระหว่างการแข่งจัยซีเกมส์ที่ประเทศลาว หากใครได้ติดตามข่าวในเวลานั้น ต้องยอมรับว่า ชื่อของ "เอ็กซ์" มักจะถูกพูดถึงในเรื่องอารามณ์ร้อนมากกว่าผลงานที่ผ่านมา 

 

กระทั่งล่าสุดชื่อของเขากลับมาโด่งดังระดับประเทศในคดีความกับภรรยา หรือ "หมอนิ่ม" พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 45 ปี  ในข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว พัวพันยาเสพติด และถูกตัดสินจำคุก ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2556 เมื่อนางปวีณา หงสกุล พา พญ.นิธิวดี เข้าแจ้งความจับในคดีใช้ความรุนแรงในครอบครัว หลังถูกทำร้ายร่างกายและใช้ปืนข่มขู่ 

 

"หมอนิ่ม" คือใคร?

 

สำหรับประวัติของ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม เธอเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงามและยังเป็นผู้คิดค้นครีมบำรุงผิวหน้า เปิดคลินิกส่วนตัว ชื่อว่า “บ้านหมอนิ่มคลินิกเวชกรรม” โดยเธอมีประกาศนียบัตร รางวัลมาการันตีถึงความสามารถมากมาย และชื่อของ "หมอนิ่ม" มีชื่อเสียงในแวดวงข่าวเมื่อเธอตกเป็นเหยื่อของ "ความรุนแรงในครอบครัว" ที่เกิดขึ้นซ้ำซากในสังคมไทยไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย 

 

ย้อนเหตุการณ์ "เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ถูกยิง 

 

19 ตุลาคม 2556 เวลาประมาณ 19.10 น.

เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงนายจักรกฤษณ์ขณะอยู่ในรถยนต์ปอร์เช่ สีดำ ตลอดเส้นทางถนนรามคำแหง จนมาหยุดที่หน้าวัดบำเพ็ญใต้ ถนนรามคำแหง เขตมีนบุรี พบนายจักรกฤษณ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งกระสุนได้ถูกบริเวณหน้าอก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

20 ตุลาคม 2556

เจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์ว่า คนร้ายที่ยิงเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ มีอยู่ 2 คน ได้แก่ คนขับ 1 คน และคนยิง 1 คน จากการสอบปากคำหมอนิ่มและแม่บ้านที่นั่งอยู่ในรถกับนายจักรกฤษณ์ พบว่าสอดคล้องกันและไม่มีจุดที่น่าสงสัย 

 

23-24-26 ตุลาคม 2556

 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในขณะนั้น ถือเป็นมิพระกาฬได้ประกาศตัดปมยาเสพติดออก เนื่องจากเห็นว่า แม้เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เสพยาจริง แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้ค้ายา และยังคงประเด็นพระเครื่อง ปัญหาครอบครัว ความขัดแย้งกับสมาคมยิงปืนเอาไว้ก่อน สุดท้ายตำรวจเริ่มมุ่งเน้นประเด็นไปที่ความขัดแย้งในครอบครัวเป็นหลัก หลังสืบพบว่า เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ เคยมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพี่ชายต่างมารดาของหมอนิ่ม และในช่วงเวลานั้น ตำรวจได้รับรายงานว่า วันที่ 15 ตุลาคม 2556 นายจักรกฤษณ์และหมอนิ่มมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง มีการพยายามทำร้ายหมอนิ่ม ก่อนที่เอ็กซ์ จะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า คนใกล้ตัวหมอนิ่มเป็นผู้บงการ เนื่องจากทนพฤติกรรมรุนแรงของนายจักรกฤษณ์ไม่ไหว

 

5 พฤศจิกายน 2556

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งประเด็นการสังหารไปยังความขัดแย้งระหว่าง เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ และครอบครัวของหมอนิ่ม พญ.นิธิวดี  โดยออกหมายเรียกเครือญาติของหมอนิ่มมาทำการสอบสวน 4 คน และฝ่ายสืบสวนยังพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นทีมสังหาร

 

9 พฤศจิกายน 2556

 

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้แถลงข่าวการจับกุมตัวนายจิรศักดิ์ กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี มือปืนลอบสังหาร ซึ่งสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก “ทนายอี๊ด” นายสันติ ทองเสน ด้วยค่าจ้าง 2 แสนบาท โดยแบ่งกับนายธวัชชัย เพชรโชติ คนขับขี่รถจักรยานยนต์ คนละ 1 แสนบาท ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี

 

10 พฤศจิกายน 2556

 

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมชุดสืบสวนได้แถลงข่าวการจับกุม น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกุล หรือ “เจ๊แหม่ม” ผู้จัดหาทีมสังหารนายจักรกฤษณ์ โดยให้การรับสารภาพว่า “ได้รับการว่าจ้างจาก นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม และตัวหมอนิ่มเอง ด้วยค่าจ้าง 1.2 ล้านบาท”

 

11 พฤศจิกายน 2556

 

นางสุรางค์  แม่หมอนิ่มเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา โดยรับสารภาพว่าจ้างมือปืนฆ่านายจักรกฤษณ์จริง เพราะแค้นที่ลูกสาวถูกทำร้ายบ่อยครั้ง 

 

12 พฤศจิกายน 2556

 

ทนายอี๊ด ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้ว่าจ้างและจัดหามือปืน ได้เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ 

 

19 ธันวาคม 2559

 

ศาลจังหวัดมีนบุรี อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง แพทย์หญิง นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ พร้อมด้วยมารดาและพวกซึ่งเป็นกลุ่มมือปืนผู้ก่อเหตุรวม 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยง ส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน โดยยิงปืนในที่สาธารณะ จากกรณีร่วมกันจ้างวานกลุ่มมือปืนให้ไปสังหารนายจักรกฤษณ์ จนถึงแก่ความตายเมื่อปี 2556

 

โดยล่าสุดศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง จึงมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต หมอนิ่มและทนายอี๊ด สถานเดียว ส่วนกลุ่มมือปืนและผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 ราย ศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ นางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม ศาลได้มีคำสั่งให้ยกฟ้อง โดยทนายความของหมอนิ่มยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวหมอนิ่ม 

 

20 ธันวาคม 2559

 

ศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หมอนิ่ม โดยตีราคาประกัน 2.5 ล้านบาท 

 

8 พฤษภาคม 2561

 

ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีจ้างวานฆ่านายจักรกฤษณ์ กับจำเลยทั้ง 5 แต่ภายหลัง ศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นวันที่ 21 มิ.ย. 2561 เนื่องจากคำพิพากษายังไม่แล้วเสร็จ ประกอบทนายฝั่งโจทก์ขอเลื่อนเป็น 26 มิถุนายน 2561 

 

8 ตุลาคม 2564 ปิดคดี

 

ล่าสุด ศาลฎีกา มีพิพากษา ยกฟ้อง “หมอนิ่ม” อดีตภรรยา ในคดีจ้างวานฆ่า ส่วน “แม่หมอนิ่ม” ผู้จ้างวาน รับโทษจำคุกตลอดชีวิต

 

 

"ใช้ความรุนแรง" จุดเริ่มต้นจ้างวานฆ่า "เอ็กซ์" หรือไม่?

 

คดี "หมอนิ่ม" ถูกทำร้ายร่างกายได้รับความสนใจอย่างมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการใช้ความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งโอกาสจาก "มารดาหมอนิ่ม" นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์มติชนออนไลน์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ก่อนเกิดเหตุการณ์เป็นผู้จ้างวานฆ่าเอ็กซ์ว่า ยอมรับถึงสิ่งที่ได้กระทำไปทั้งหมด โดยสาเหตุเกิดจากทนไม่ได้ที่ลูกสาวถูกนายจักรกฤษณ์ ทำร้ายมานานกว่า 6 ปี แม้ว่าจะพยายามให้โอกาสนายจักรกฤษณ์ หลังจากพ้นโทษในคดีทำร้ายร่างกาย แต่ เอ็กซ์ ก็ยังคงทำร้ายลูกสาวและหลานอยู่ตลอดเวลา

 

จากคำสัมภาษณ์ข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าครอบครัวไทยสุมไฟด้วย "ความรุนแรง" จุดเริ่มต้นของการเกิดโศกนาฎกรรมและทุกคนตกเป็น "เหยื่อ" ทั้งหมด ทั้งนี้ จากการค้นหาข้อมูลพบรายงานสถานการณ์ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปี 2559 ของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ในหัวข้อ "ข้อความรุนแรงฆ่าครอบครัว เก็บสถิติความรุนแรงในครอบครัวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ 13 ฉบับตลอดปี 2559" ระบุว่า

 

  • มีข่าวความรุนแรงในครอบครัว 466 ข่าว
  • เป็นการฆ่ากันถึงร้อยละ 48.5
  • ฆ่าตัวตายร้อยละ 17.6
  • ทำร้ายกันร้อยละ 17.4
  • เกือบครึ่งหนึ่งของข่าวการฆ่ากัน เป็นการสังหารโดยใช้อาวุธปืน และมีแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้นร้อยละ 18.5

 

จะทำอย่างไร? เมื่อความรุนแรงไม่ใช่เรื่องไกลตัว

 

จากข้อมูลข้างต้นคงต้องยอมรับว่าสังคมไทยยังใช้ความรุนแรงในสถาบันครอบครัวชนิดที่เกิดขึ้นซ้ำซาก รวมทั้งยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก และหลายหน่วยงานต่างพยายามสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว ผลกระทบ แนวทางการป้องกัน เพื่อยับยั้งความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในครอบครัว แล้วจะทำอย่างไร? เมื่อความรุนแรงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป 

 

ในเบื้องต้นหากเกิดการกระทบกระทั่งกันกับบุคคลในครอบครัว สิ่งแรกที่หลายหน่วยงานแนะนำคือ

 

1. ควรพูดคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์นำ

2. หลีกเลี่ยงการพูดจาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย

3. ทำกิจกรรมร่วมกันภายในบ้านหรือนอกบ้านระหว่างสมาชิกในครอบครัว เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มความสามัคคีและลดปัญหาความรุนแรงได้

 

คำถามต่อมา ความรุนแรงในครอบครัวเมื่อเกิดขึ้นแล้วควรทำอย่างไร? สิ่งที่ผู้ถูกกระทำต้องทำคือ พยายามหาคนที่สามารถช่วยเหลือได้ในยามฉุกเฉิน หรือติดต่อหน่วยงานใกล้บ้านที่พร้อมช่วยเหลือ ทั้งสถานีตำรวจ และโรงพยาบาล

 

รวมทั้งปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนในสังคมจะต้องช่วยกันยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น มาร่วมสร้างสังคมที่ดีโดยการ "ลดใช้ความรุนแรง" กันนะ ไม่ว่าจะเป็นภายในครอบครัว หรือในพื้นที่สาธารณะ จะได้ไม่เกิดโศกนาฎกรรมซ้ำซากที่ทุกคนต่างตกเป็น "เหยื่อ"

 

ข้อมูล : พีพีทีวี, ศาลฎีกา, มติชน, กรมสุขภาพจิต

ภาพ : ข่าวสด

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง