"The Secret" เป็นหนังสือที่เขียนโดย Rhonda Byrne และมีความเชื่อเกี่ยวกับ "The Law of Attraction" หรือ "กฎแห่งแรงดึงดูด" โดยหนังสือนำเสนอเนื้อหาว่าด้วย ความคิดและความตั้งใจของคุณสามารถส่งผลต่อการเกิดเหตุการณ์ในชีวิตของคุณได้ โดยหนังสือจะนำเสนอกฎแห่งแรงดึงดูด ซึ่งกฎนี้คือความคิดที่จะส่งผลต่อการเกิดเหตุการณ์ในชีวิตของคุณ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำเทคนิคใช้การคิด รวมทั้งการควบคุมความคิดเพื่อให้คุณได้ใช้ความคิดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในหนังสือ The Secret กล่าวว่า กฎแห่งแรงดึงดูดเป็นแนวคิดที่เป็นศูนย์กลางของคำสอนของ "ความลับ" ในหนังสือและปรัชญาต่างๆ ที่คล้ายคลึงกัน ตามความเชื่อนี้ ผู้คนสามารถดึงดูดประสบการณ์เชิงบวกหรือเชิงลบเข้ามาในชีวิตของพวกเขาตามความคิด อารมณ์ และความตั้งใจ แนวคิดก็คือว่าจักรวาลถูกควบคุมโดยกฎชุดหนึ่ง และผู้คนสามารถใช้กฎเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของตนเองได้โดยการมุ่งเน้นความคิดและพลังงานไปยังสิ่งที่พวกเขาต้องการ ผู้คนสามารถใช้ความคิดและอารมณ์เพื่อดึงดูดประสบการณ์เชิงบวก เช่น ความสำเร็จ ความสุข และความอุดมสมบูรณ์เข้ามาในชีวิต ในทางกลับกัน ความคิดและอารมณ์เชิงลบสามารถดึงดูดประสบการณ์เชิงลบ เช่น ความล้มเหลว ความทุกข์ยาก และความขาดแคลน ดังนั้น เพื่อใช้กฎแห่งแรงดึงดูดให้เป็นประโยชน์ ผู้คนควรมุ่งความคิดและอารมณ์ไปที่สิ่งที่พวกเขาต้องการบรรลุผลและปลูกฝังความคิดเชิงบวกและมองโลกในแง่ดี มีเทคนิคต่างๆ มากมายที่ผู้คนอาจใช้กฎแห่งแรงดึงดูดในชีวิต เช่น การสร้างเป็นภาพ การยืนยัน และการตั้งเป้าหมาย บางคนยังใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น กระดานแสดงวิสัยทัศน์และบันทึกแสดงความขอบคุณเพื่อช่วยให้พวกเขามีสมาธิกับความคิดและอารมณ์กับสิ่งที่พวกเขาต้องการ ในหนังสือ The Secret เล่าว่า ผู้คนสามารถใช้กฎแห่งแรงดึงดูดนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น การได้งานในฝัน การหาคู่ที่โรแมนติก หรือการพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ตัวอย่างเช่น คนๆ หนึ่งอาจใช้เทคนิคการสร้างเป็นภาพ เช่น การนึกภาพตัวเองทำงานในฝันหรือจินตนาการว่าตัวเองอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีความสุขและสุขภาพดี เพื่อช่วยเน้นความคิดและอารมณ์ของพวกเขาไปยังสิ่งที่พวกเขาต้องการ พวกเขายังอาจใช้การยืนยัน เช่น พูดข้อความเชิงบวกซ้ำๆ กับตัวเอง หรือตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเจาะจงและดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนซื้อมานานหลายปีมากแล้ว และอ่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่เป็นประจำ ในความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ผู้เขียนมีความเชื่อในกฎแรงดึงดูด เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผู้เขียนก็ใช้กฎแห่งแรงดึงดูดในกิจกรรมประจำวันมาตลอด เช่น การหาที่จอดรถ ผู้เขียนก็จะนึกถึงที่จอดรถว่างๆ เตรียมเอาไว้ให้ และมั่นใจในตัวเองว่ามีที่จอดรถแน่นอน 100% และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่ได้สำเร็จแบบนี้ทุกครั้งไป หากวันไหนที่ผู้เขียนไม่มีสมาธิ หรืออารมณ์ไม่สดใส เหมือนการสร้างภาพทำได้ไม่ชัดเจนก็จะไม่สำเร็จ หาที่จอดไม่ได้ยังมีประสบการณ์หนึ่งเกี่ยวกับลูกหนี้ มีครั้งหนึ่งเพื่อนของผู้เขียนมาขอยืมเงินไปจำนวนหนึ่งและบอกว่าสิ้นเดือนจะนำมาคืน ผู้เขียนจึงให้เงินยืมไป แต่เมื่อถึงสิ้นเดือน เพื่อนคนนั้นก็เงียบไปไม่ติดต่อกลับมา ผู้เขียนเลยลองใช้กฎแห่งแรงดึงดูด โดยในขั้นตอนแรก ขอจักรวาล โดยการสร้างภาพที่ชัดเจนว่าเพื่อนนำเงินมาคืนแล้วตามจำนวนที่ยืมไป ขั้นตอนที่ 2 เชื่อ หรือการยืนยันว่าเพื่อนนำเงินมาคืนแล้วจริงๆ โดยการเตรียมนำเงินที่เพื่อนนำมาคืนแล้วนั้นไปใช้จ่าย ขั้นที่ 3 การรับ โดยการขอบคุณเพื่อนที่นำเงินมาคืนครบทุกจำนวน ผู้เขียนคิดอยู่เช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา เพียงไม่กี่วันเพื่อนก็นำเงินมาคืนจริงๆ โดยไม่ต้องทวงถาม พร้อมทั้งคำขอโทษที่ผิดเวลาไป เพราะติดธุระ ในความคิดของคนอื่นอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนนั้นเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนภาพประกอบโดยผู้เขียนอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !