10 วิธีใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความสุขแบบที่ต้องการ น้อยคนจะรู้!หลายครั้งเรามักได้ยินคนพูดว่า "ชีวิตเรียบง่าย" และหลายคนอาจมองภาพไม่ออกและตีความไม่ออกว่าชีวิตเรียบง่ายคืออะไร? จนทำให้หลายคนไปคิดว่า การมีชีวิตที่เรียบง่าย คือ การไม่ต้องอยากได้อยากมี การปลงตก การไม่ต้องทะเยอทะยาน การไม่ต้องแสวงหาเพิ่มพัฒนาเพิ่ม พอเป็นแบบนี้หลายคนตกอยู่ในสถานการณ์หมดไฟไม่รู้จะทำอะไรต่อและใช้ชีวิตแบบผัก จนมองไม่ออกว่าภาค 2 ภาค 3 ของตัวเองคืออะไร ความเรียบง่ายไม่ได้บอกว่าห้ามดีขึ้นห้ามมีมากขึ้นนะคะ เพราะในความเป็นจริงนั้นผู้เขียนพบว่า ความเรียบง่าย หมายถึง สิ่งที่ไม่ซับซ้อนหรือไม่ซับซ้อนมาก มีความเป็นระเรียบเรียบร้อยอยู่ในตัวมันเอง นี่คือคำจำกัดความของคำว่าเรียบง่ายจริงๆ ค่ะ และคำว่า "ชีวิตเรียบง่าย" ก็คือการที่มีรูปแบบชีวิตแบบที่ไม่ได้ซับซ้อนและมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยในทุกด้าน หรือจะพูดอีกอย่างง่ายๆ ก็คือ การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย คือการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการให้สอดคล้องกับความเป็นธรรมชาติของการใช้ชีวิตของเราค่ะโดยธรรมชาติมนุษย์ทุกคนต้องการเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น ดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้นจากจุดที่เป็นอยู่เดิมในทุกด้าน ลึกๆ ข้างในทุกคนต้องการแสดงออกในสิ่งตัวเองเก่ง ในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี ในเรื่องที่ตัวเองสนใจและมีพรสวรรค์ ดังนั้นถึงได้บอกว่า ชีวิตเรียบง่ายไม่ใช่เรื่องของการปลงตก การไม่กระตือรือร้นหรือไม่มีเป้าหมายนะคะ แต่การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายเป็นการเลือกทำตามแนวคิดที่ตัวเองต้องการเพื่อบรรลุเป้าหมายในสิ่งต้องการในชีวิตของเราค่ะ พอเป็นแบบนี้ชีวิตเรียบง่ายจึงกลายเป็นหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และหลายคนมองว่าคนที่มีชีวิตเรียบง่ายมีความสุขได้ง่ายกว่า และผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ จึงเรียนรู้มาระยะหนึ่งบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอยากส่งต่อความรู้เล็กๆ เอาไว้ในบทความนี้ค่ะ โดยผู้เขียนมี 10 วิธีใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความสุขในแบบที่ต้องการ น้อยคนจะรู้! มานำเสนอดังนี้ค่ะ1. ผ่อนคลายความกังวล ความกังวลทำให้ชีวิตยากขึ้นแบบไม่ต้องอธิบายยาวค่ะ เพราะความกังวลเป็นสถานการณ์ลบจึงทำให้จิตใจก็วุ่นวายเพราะคิดกังวลตลอดเวลา ความกังวลยังส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตจึงทำให้ชีวิตมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาและต้องแก้ไขค่ะ ในบางครั้งหากการเจ็บป่วยมีความซับซ้อนชีวิตก็ยากขึ้นไปอีกค่ะ การลดความวิตกกังวลทำให้เราชีวิตง่ายขึ้นเพราะเราจะโฟกัสกับสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงและควบคุมได้เท่านั้น โฟกัสที่การสร้างการลงมือทำ คนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายจะคิดบวกค่ะ คิดบวกว่าต่อให้สถานการณ์เป็นแบบไหนเราก็สามารถแก้ไขได้อยู่ดี ต่อให้ใครจะคิดกับเรายังไงเขาก็ไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตเราอยู่ดี ต่อให้ฝนตกเดี๋ยวก็มีแดดออก ต่อให้อ้วนเดี๋ยวก็สามารถผอมได้ ต่อให้ตอนนี้ยังไม่สำเร็จหากลงมือทำไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เข้าใกล้เป้าหมายได้อยู่ดี ถึงแผน A จะไม่สำเร็จก็แค่เปลี่ยนมาใช้แผน B ก็เท่านั้นเองค่ะ แล้วทำไมต้องไปกังวลให้หนักและทำให้ชีวิตยากขึ้นค่ะ! แค่เลิกกังวลชีวิตก็ง่ายขึ้นง่ายๆ เพียงเท่านี้เองค่ะ2. ลดของเหลือใช้ ชีวิตยากและซับซ้อนมากขึ้นเพราะมีของเต็มบ้านแบบไม่ได้ใช้ การมีของใช้เกินความจำเป็นนอกจากจะเป็นการซื้องานให้ตัวเองที่ต้องมาทำความสะอาดและเก็บรักษาแล้ว ของใช้บางอย่างหากเก็บรักษาไม่ดีอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู แมลงและสัตว์พาหนะนำโรคต่างๆ ได้ ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในบ้านไม่ดีก็ตามค่ะ ชีวิตจึงยากและซับซ้อนขึ้น การลดของเหลือใช้ทำให้มีงานที่ต้องทำลดลง ทำความสะอาดน้อยลง บ้านและสิ่งแวดล้อมรอบตัวก็ดีขึ้น สุขภาพกายและจิตก็ดีขึ้น ชีวิตจึงเรียบง่ายขึ้นค่ะ3. กำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิต ในบางครั้งอาจต้องนั่งลงและใช้เวลาเพื่อตรวจสอบดูสิ่งต่างๆ ในชีวิตของเราค่ะ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่จำเป็นและกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นนี้ในทักด้านของชีวิตค่ะ เช่น ลบแอปที่ไม่ได้ใช้ ทำความสะอาดบ้านเก็บของที่ไม่ได้ใช้ หรือตัดสินใจเลิกทำบางสิ่งที่ไม่สำคัญในชีวิตไปซะ เลิกนิสัยไม่ดีบางอย่าง พอเป็นแบบนี้ชีวิตก็ง่ายขึ้นค่ะ พอลบแอปที่ไม่จำเป็นการใช้งานโทรศัพท์ก็ทำได้ดีขึ้น แบบไม่ต้องมาหงุดหงิดจากหน้าจอที่รกๆ ค่ะ พอเราตัดกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ได้สำคัญออกไปจากชีวิตเราก็มีเวลาว่างขึ้นมีเวลาไปทำอย่างอื่นที่สำคัญและจำเป็นมากขึ้น เช่น การลดเวลาดูทีวีและหันไปออกกำลังกายแทนค่ะ พอลงมือทำในสิ่งที่จำเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นก้าวหน้าขึ้นพัฒนาขึ้น ชีวิตจึงเรียบง่ายและมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการค่ะ4. อยู่กับปัจจุบัน สิ่งนี้หมายถึงการมีชีวิตจากจัดที่เป็นอยู่ตอนนี้ในขณะ อยากมีความสุขก็มีตอนนี้ได้เลยโดยไม่ต้องไปรอตอนลูกได้แต่งงานหลานเรียนจบอะไรค่ะ เพราะเวลาที่มีจริงๆ คือ ปัจจุบันตอนนี้วินาทีนี้เท่านั้น เพราะเมื่อวานก็คืออดีตไปแล้วและอนาคตก็ยังมาไม่ถึง จินตนาการถึงสิ่งที่อยากให้สำเร็จในอนาคตได้ค่ะ แต่ต้องสนุกและเพลิดเพลินกับการลงมือทำในปัจจุบัน เคยได้ยินประโยคนี้ไหมคะ? Tomorrow is Now มีแค่ปัจจุบันเท่านั้นค่ะ อดีตก็ส่งผลต่อชีวิตเราไม่ได้เพราะอดีตจบไปแล้ว ปัจจุบันสำคัญ เน้นสิ่งที่เรามีในปัจจุบันและสัมผัสความสุขจากสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันไปเลยแบบไม่ต้องเสียรอเวลา คนที่มีชีวิตเรียบง่ายเพราะเขาเข้าใจเรื่องเวลาปัจจุบันและชัดเจนว่าอดีตคืออดีต อนาคตจินตนาการไว้ยังไง ชีวิตยากเพราะในขณะที่ใช้เวลาอยู่ในปัจจุบันดันไปคิดถึงอดีตที่เจ็บซ้ำจากนั้นจึงจินตนาการอนาคตเป็นภาพของความล้มเหลวต่อค่ะ5. สร้างนิสัยการออม ประเด็นนี้หมายถึงการเก็บเงินเพื่อเตรียมความพร้อมในสำหรับสิ่งที่อยากทำ เช่น การหารายได้เพิ่ม หากสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ก็ควรทำค่ะ การเก็บออมนี้ควรอยู่บนพื้นฐานที่เราสามารถทำได้และการเก็บออมนี้ไม่ใช่ว่า ตั้งเป้าว่าจะเก็บเงิน 30,000 บาท เพื่อเอาไปเที่ยวหลังเกษียณถึงตอนนั้นบางคนหูตาก็แทบจะไปหมดแล้วค่ะ การเก็บออมจึงควรทำในทิศทางที่ตัวเองจะได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แค่เพียงว่ามีตัวเลขในบัญชีก็พอแล้ว การเก็บออมทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเพราะอยากจะทำอะไรให้สำเร็จเรื่องงบประมาณก็ไม่สะดุดค่ะ ชีวิตอาจดูยากขึ้นถ้าในบางเป้าหมายต้องใช้เงินแล้วเรามีไม่เพียงพอ จึงทำให้เป้าหมายอาจต้องเลื่อนหรือยกเลิกไปได้ คนจึงมักพูดว่า "ทำไมยากจังกว่าจะสำเร็จ"6. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างและใช้เวลากับคนที่คุณรักและสมาชิกในครอบครัวทำให้ชีวิตง่ายขึ้นค่ะ เพราะจะคล้ายกับเราสร้างเครือข่ายทางสังคมที่ดี เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคมการสร้างความสุมพันธ์กับคนอื่นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะในบางครั้งโอกาสดีๆ ในชีวิตก็อาจมาจากการที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนๆ หนึ่งค่ะ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในยุคอินเตอร์เน็ตอาจหมายถึงกลุ่มคนในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ด้วยค่ะ พอเรามีความสัมพันธ์ที่ดีชีวิตจึงง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับคนที่หาเรื่องคนอื่นตลอดเวลา ทะเลาะกับคนอื่นตลอดเวลาหรือจับผิดคิดลบกับคนอื่นตลอดเวลา จึงทำให้ชีวิตยากขึ้นค่ะ7. การมีสุขภาพดี การหันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่เหมาะสม และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอแน่นอนว่าสุขภาพก็ดีตามมา เมื่อสุขภาพดีก็มีความสุขง่าย ทำงานต่างก็ไม่เหนื่อยและมีสมาธิมากขึ้น ทำงานเสร็จเรียบร้อยดีตามที่กำหนด พอเป็นปัญหาในชีวิตก็น้อยลง ชีวิตจึงเรียบง่ายและเป็นระเบียบขึ้น8. คนมีชีวิตเรียบง่ายมีสติในการเลือกทานเลือกใช้ค่ะ การประเมินคุณภาพของสิ่งต่างๆ ก่อนซื้อทำให้เราได้ของที่มีคุณภาพดีมาใช้มาทาน เราจึงได้ประโยชน์จากสิ่งนั้นแบบเต็มที่ ชีวิตจึงง่ายขึ้นเพราะเกิดความคุ้มค่า เกิดความพึงพอใจต่อสินค้าชนิดนั้น ถ้าเป็นอาหารก็จะได้รับประโยชน์ทางคุณค่าในอาหารแบบเต็มที่ค่ะ จึงทำให้สุขภาพดีตามมา พอเป็นนี้ชีวิตจึงง่ายค่ะ ชีวิตยากเพราะซื้อของไม่ได้ดูจึงมีเรื่องของความไม่พึงพอใจตามมา แถมยังหงุดหงิดลดอารมณ์และไปตีความว่าแม่ค้าหลอกบ้างตัวเองโชคไม่ดีบ้างหรืออะไรทำนองนี้ค่ะ9. มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน คนที่มีชีวิตเรียบง่ายเขามีแผนที่ในการใช้ชีวิตค่ะ แผนที่ๆ ว่านี้ไม่ใช่ลายแทงแต่เป็นป้าหมายในชีวิต ซึ่งคนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมีเป้าหมายใหม่ๆ ที่เร้าใจตลอดเวลา เมื่อเป้าหมายกนึ่งสำเร็จเขาจะตั้งเป้าหมายใหม่ทันทีเพื่อไม่ปล่อยให้ตัวเองหมดไฟ ไฟมอด ไฟดับค่ะ เป้าหมายทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเพราะคนๆ นั้นจะรู้ชัดเจนว่าต้องลงมือทำอะไรบ้างเป้าหมายนั้นจึงจะสำเร็จค่ะ โดยหลังจากกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วคนที่มีชีวิตเรียบง่ายยังรู้ต่ออีกว่าต้องเอาเป้าหมายมาซอยย่อยและแบ่งเป็นขั้นตอนย่อยๆ และลงมือทำในทุกวันค่ะ ชีวิตยากเพราะบางคนไม่มีเป้าหมาย หรือเป้าหมายเลือนลาง ถึงแม้ว่าบางคนจะมีเป้าหมายแต่ดันไม่ซอยย่อยให้เล็กลงชีวิตจึงยากเพราะพอไปลงมือทำมันดูเป็นงานใหญ่ งานยาก งานที่ซับซ้อนค่ะ10. ปล่อยวางในผลลัพธ์ คนมีชีวิตเรียบง่ายเอาพลังทั้งหมดมาโฟกัสที่การสร้าง มีความสุขกับตอนลงมือทำและทำแบบรัวๆ และผลปล่อยวางในผลลัพธ์ เพราะเขารู้ว่าผลลัพธ์จะตามมาเอง เรามีหน้าที่สร้างสรรค์มากกว่ากังวลในผลลัพธ์ เพราะคนมีชีวิตเรียบง่ายรู้ว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จหนึ่ง เขาจึงโฟกัสไปที่สามารถควบคุมได้ และผลลัพธ์เผยออกมาเอง ในทางตรงกันข้ามชีวิตยากเพราะหลายคนโฟกัสที่ผลลัพธ์จนทำให้เครียด การลงมือทำจึงหดหายตามไปเพราะเกิดความผิดหวัง ท้อแท้ โดยมีอารมณ์ประมาณว่าทำไมไม่มาสักที ตอนไหนจะมา ตอนไหนจะสำเร็จตอนไหนจะได้และอื่นๆ อีกเพียบที่เป็นอารมณ์และความรู้สึกคล้ายกันค่ะ จึงทำให้คนๆ นั้นมองว่าชีวิตมันยาก เสียเปรียบตลอด เก่งไม่เท่าคนอื่น ต้องเหนื่อย ต้องต่อสู้ ต้องฝ่าฟัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ต้องทนทุกข์ แต่แท้จริงแล้วแค่ปล่อยวางในผลลัพธ์และสนุกกับการลงมือทำ ก็ทำให้ชีวิตเรียบง่ายขึ้นแล้วค่ะ!จริงๆ ต้องบอกว่าผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของคนใช้ชีวิตเรียบง่ายค่ะ เพราะสามารถมองภาพออกเลยว่าเรียบง่ายคืออะไรและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันตลอด ปกติพยายามไม่ตีความสถานการณ์ในทางลบ มองว่าทุกอย่างแก้ไขได้ พัฒนาได้ ทุกปัญหามีทางออกทางแก้เสมอจึงมีความกังวลน้อยค่ะ และเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกคิดบวกให้มากขึ้น ในขณะที่อยู่ที่บ้านพยายามสะสางข้าวของต่างๆ และจัดบ้านให้สะอาดให้มากที่สุดค่ะแต่ก็ไม่ตลอดเวลาค่ะเพราะไม่ได้อยู่บ้านตลอด ซื้อของใช้ที่ต้องใช้จริงๆ เท่านั้น เพราะสมัยนี้ซื้อของได้ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว สั่งวันนี้อีก 2-3 วัน ก็ได้รับแล้วค่ะ จึงไม่มีความจำเป็นต้องสะสมของไว้จำนวนมากแบบไม่จำเป็นค่ะ และทุกวันพยายามจัดเวลาไปออกกำลังกายโดยในบางวันก็ได้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่บางวันก็มีโอกาสไปออกกำลังกายนานหน่อยค่ะ และส่วนมากจะโฟกัสไปที่เป้าหมายของตัวเองและลงมือทำอย่างต่อเนื่องค่ะ โดยปล่อยวางในผลลัพธ์ และจากที่ใช้ชีวิตแบบนั้นทำให้คนรอบข้างสะท้อนมาเหมือนกันค่ะว่าผู้เขียนเป็นคนใช้ชีวิตเรียบง่าย ส่วนวิธีในการใช้ชีวิตเรียบง่ายต้องทำอะไรบ้างผู้เขียนก็ได้บอกไว้หมดแล้วจากข้อมูลข้างต้นค่ะ จึงหวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะทำให้คุณผู้อ่านมองภาพออกมากขึ้นหากต้องการมีชีวิตที่เรียบง่ายค่ะเครดิตภาพประกอบบทความภาพหน้าปก โดย Julian Jagtenberg จาก Pexelsภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Ketut Subiyanto จาก Pexels, ภาพที่ 2 โดย Erik Mclean จาก Pexels, ภาพที่ 3 โดย William Choquette จาก Pexels, ภาพที่ 4 โดย Ann H จาก Pexelsออกแบบภาพหน้าปกใน Canvaบทความอื่นที่น่าสนใจสรุปแนวคิดการใช้ชีวิตจากหนังสือ คาถาชีวิต 3 โดย วิกรม กรมดิษฐ์กฎแห่งการเพาะเมล็ดพันธุ์ กฎธรรมชาติในการใช้ชีวิตให้มีความมั่งคั่งเหลือเฟือ9 วิธีใช้ชีวิตให้มีความสุขมากขึ้น รู้สึกมีคุณค่าในตัวเองสูงขึ้น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !