เคยสงสัยหรือเปล่าคะว่าทำไมเวลาเราพาน้องหมาไปอาบน้ำที่ร้านอาบน้ำตัดขนสุนัขเจ้าตัวแสบของเราจะตัวหอมฟุ้ง ขนนุ่มสวยเสียเหลือเกิน แต่วันไหนที่ลงมืออาบน้ำให้เองทั้งที่อาบแล้วอาบอีกสองรอบสามรอบแต่ตัวกลับไม่หอมสักนิด แถมถ้าใครเลี้ยงสุนัขพันธุ์ขนยาวก็ต้องมาปวดหัวกับขนที่พันกันเป็นสังกะตัง หวีแต่ละทีก็สร้างความเจ็บปวดให้กับเจ้าตัวแสบ ต้องทะเลาะกันอยู่นานเป็นชั่วโมงๆ เรียกว่าปวดหัวทั้งหมาทั้งคนเลยทีเดียว ข้าวหอมเองก็เป็นอีกคนที่ชอบอาบน้ำให้น้องหมาด้วยตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าทางร้านจะอาบน้ำให้ลูกสาวลูกชายเราหอมฟุ้งแค่ไหน แต่กลับมาบ้านทีไรเจ้าตัวแสบก็มีท่าทีน้อยใจและซึมอยู่บ่อยๆ แถมด้วยรอยแผลที่ไม่น่าไว้ใจในบางจุด วันนี้ข้าวหอมจึงมีเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้การอาบน้ำให้น้องหมาเป็นเรื่องง่ายมาแบ่งปันเพื่อนๆ กันค่ะภาพโดย AmandaCullingford จาก Pixabay 1. เป่าขนให้แห้ง การเป่าขนสุนัขให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำจะช่วยให้ขนของน้องหมาฟูสวย ไม่พันกันและไม่มีกลิ่นอับติดตัวน้องหมาด้วยค่ะ โดยหากใครไม่มีเครื่องเป่าลมเย็นสำหรับเป่าขนสุนัขก็สามารถใช้ไดร์เป่าผมของเราแทนได้ แต่ต้องใช้ลมอุ่นๆ สลับเย็นในการเป่า อย่านำลมร้อนไปจ่อใกล้ๆ ผิวหนังน้องหมาเด็ดขาดเพราะจะทำให้น้องหมารู้สึกแสบร้อน จนกลายเป็นกลัวและไม่ชอบการเป่าขนไปซะก่อน 2. เช็ดขี้หูและน้ำตาของน้องหมาด้วย จริงๆ ข้อนี้เป็นสิ่งที่เจ้าของควรทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เพราะนอกจากขี้หูและน้ำตาของน้องหมาจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้วหากปล่อยไว้นานๆ อาจก่อให้เกิดโรคหูอักเสบหรือขนตาหลุดออกมาเป็นก้อนๆ จนขนบริเวณหัวตาไม่ขึ้นได้ ฉะนั้นเจ้าของควรหมั่นเช็ดขี้หูและน้ำตาด้วย โดยหากใช้น้ำยาสำหรับเช็ดหูและคราบน้ำตาให้กับสุนัขโดยเฉพาะจะช่วยให้สามารถเช็ดขี้หูและคราบน้ำตาออกได้ง่ายกว่า แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถใช้ทิชชู่เปียกในการเช็ดทำความสะอาดแทนก็ได้ค่ะภาพโดยผู้เขียน 3. ใช้แชมพูและครีมนวดสำหรับสุนัข เมื่อเราใช้แชมพูอาบน้ำให้กับน้องหมาแล้ว ให้ใช้ครีมนวดสำหรับสุนัขหมักขนสุนัขทิ้งไว้ 1-2 นาทีนอกจากจะทำให้ขนสุนัขอ่อนนุ่ม ไม่พันกันแล้วยังช่วยให้มีกลิ่นหอมๆ ติดตัวสุนัขได้มากกว่าการใช้แชมพูเพียงอย่างเดียวด้วยค่ะ 4. โลชั่นบำรุงขนสำหรับสุนัข โดยปกติแล้ววัตถุประสงค์หลักในการใช้โลชั่นทาให้กับสุนัขคือการบำรุงสุขภาพขนของสุนัขให้เงางาม นุ่ม ชุ่มชื่นแลดูสุขภาพดี ขนไม่พันกันบางทีก็ใช้ในการแก้ไขสังกะตังได้ด้วย แต่สิ่งที่จะได้ตามมาอีกอย่างคือเรื่องของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มากับโลชั่นซึ่งจะติดตามขนสุนัข การใช้โลชั่นสามารถใช้ทาบำรุงได้ทุกวันหรืออย่างน้อยหลังอาบน้ำเสร็จเมื่อเช็ดตัวสุนัขจนแห้งหมาดๆ เทโลชั่นลงบนฝ่ามือจากนั้นลูบลงบนขนสุนัขให้ทั่วตัวค่ะ 5. น้ำหอมสุนัข ถือเป็นทีเด็ดเลยก็ว่าได้สำหรับเจ้าของที่ต้องการให้น้องหมาตัวหอม เพราะแค่ฉีดน้ำหอมใส่ฝ่ามือแล้วลูบไล้ให้ทั่วตัวของสุนัขก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งแล้ว โดยคุณสมบัติของน้ำหอมสุนัขนอกจากให้ความหอมแล้วบางยี่ห้อยังช่วยบำรุงขนให้เงางาม ขนไม่ขาดหลุดร่วง เป็นต้นภาพโดยผู้เขียน อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่กล่าวมาเจ้าของควรคำนึงถึงสุขภาพของสุนัขเป็นสำคัญ หลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่อาจทำให้น้องหมาของเราเกิดอาการแพ้ โดยหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเจ้าของควรหมั่นแปรงขนและสังเกตสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาหลังใช้ด้วย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีกหลายอย่างที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องหมามีกลิ่นตัว เช่น อาหาร สุขภาพฟัน ความสะอาดของที่อยู่ของสุนัข ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของอย่างเราต้องให้ความใส่ใจไม่น้อยไปกว่าการอาบน้ำเลยนะคะ ภาพหน้าปกโดย oritslama จาก Pixabay